"7 เทคนิค ฟันกำไร หุ้นเดย์เทรด"

"7 เทคนิค ฟันกำไร หุ้นเดย์เทรด"
ติดตามความเคลื่อนไหวของหนังสือ "7 เทคนิค ฟันกำไร หุ้นเดย์เทรด" คลิ๊กโลดครับ

Sunday, January 30, 2011

SET Overview พร้อมด้วยกราฟค่าเงินตอนนี้...ทางสองแพร่ง จะเลือกอะไร!!

มาดูแนวโน้มตลาดหุ้นไทย อาทิตย์หน้ากันดีกว่าครับ....

SET ระยะ Day



กราฟระยะ Day สัญญาณยังเป็นทาง 2 แพร่ง...

EMA --> ยังไม่มีทีท่าจะตัดขึ้นไปได้ครับ...ยังส่งสัญญาณเป็นขาลงอยู่

Slow Stochastic --> เริ่มส่งสัญญาณกระเตื้องขึ้นบ้างแล้ว ตัดส่งเป็นสัญญาณชะลอการขาย และพร้อมที่จะเข้าซื้อได้บ้าง

MACD --> ยังต่ำกว่า 0 เป็นสัญญาณขาลงอยู่ครับ...แต่เส้น MACD เริ่มโง้งตัวเป็นรูปแอ่งกระทะแล้ว แต่ยังไม่ตัดเส้น Signal Line ครับ...

SET ระยะ 120 นาที


ที่น่าชื่นใจหน่อยก็คือ สัญญาณระยะ 120 นาที โดยเฉพาะตัว MACD ที่ใกล้ตัด 0 เต็มทีแล้ว อาจจะเป็นสัญญาณขาขึ้นเต็มตัวได้อีกครั้ง....แต่ Slow Stochastic เริ่มย่อตัวตัดลงอีกครั้ง....ส่วน EMA กำลังจะเลือกทางว่าจะขึ้นต่อหรือหักลง

ทิ้งท้ายด้วยกราฟค่าเงินบาทกันครับ เนื่องจากช่วงนี้ตลาดบ้านเราขึ้นๆลงๆ เพราะค่าเงินบาท แทบจะตลอดเวลาครับช่วงนี้ ไปดูกันโลด



ชัดน่ะครับ!! ค่าเงินบาทกำลังอ่อนค่าลงเรื่อยๆ ส่งสัญญาณกลับตัวตั้งแต่กลางเดือน พ.ย. 53 ครับ...จากนั้นก็ไม่แข็งค่าอีกเลย อ่อนค่าเรื่อยๆ...โอกาสไป 32 บาทต่อดอลล่าห์ก็เป็นไปได้สูงทีเดียวในระยะกลาง...น่ากลัวแทนครับ T__T

สรุป

สัญญาณระยะ Day  ยังไม่สวยงามนัก แถม 120 นาที ก็เริ่มจะเจอภาวะ Overbought เหมือนกัน เป็นไปได้ว่าจะเจอแรงขายอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (วันจันทร์ที่ 31 ม.ค. 54) ส่วนจะรับอยู่ท่ 950-960 จุดหรือไม่ ก็ต้องดูกันอีกทีครับ ปัจจัยเรื่องตลาดต่างประเทศอาจจะมีส่วนทำให้บ้านเราร่วงได้เช่นกัน รวมไปถึงค่าเงินบาทที่ตอนนี้ อ่อนค่าไหลลงเรื่อยๆ...เสียววุ้ย !

โชคดีครับ

Wizard Kid (พีร์)

Thursday, January 27, 2011

ฝรั่งซื้อต่ออีกวัน แล้วกราฟ SET หล่ะ เป็นอย่างไร....น่ารักน่าลุ้นหรือน่ากลัวหวาดเสียว!!


มาดูกราฟ SET ระยะ 120 นาที กับระยะ Day กันโลดคร้าบบบบบ

ระยะ 120 นาที

Slow Stochastic --> อยู่ในเขต Overbought แล้วครับ..ตรงนี้อาจจะทำให้ SET เจอแรงขายทำกำไรเยอะอยู่ครับ...

MACD --> น่าลุ้นตรงที่ MACD กำลังจะตัดศูนย์ขึ้นครับ ถ้าตัดได้...ก็เป็นสัญญาณว่าตลาดเป็นขาขึ้นอีกครั้งครับ ตัวที่จะทำให้ MACD ไม่ผ่านศูนย์เนี่ยะ ก็คงจะเป็นเจ้า Slow Stochastic นี่แหล่ะครับ ถ้ามันหักลงแรงๆ MACD ก็อาจจะตัดลงได้อีกครั้ง เป็น Sell Signal ทันที...

EMA --> สองเส้นตัดกันแล้ว แต่ตอนนี้เริ่มจะโง้งตัดลงอีกครั้งครับ ต้องดูว่าจะเป็นเช่นใดต่อไป

ระยะ Day


Slow Stochastic --> เพิ่งตัดขึ้นวันนี้นี่เอง เป็นสัญญาณกลับตัวครับ

MACD --> ยังงมโข่งอยู่ แต่เริ่มมีการกลับตัวบ้างแล้ว แต่ยังเป็น Sell Signal อยู่ครับ

EMA --> ยังไม่ตัดกันเลยแม้แต่เส้นเดียว.. -___-"

สรุป


            การเทรดของตลาดวันนี้มันชัดเจนมากว่าจะใช้กลุ่ม PTT เป็นตัวพยุงตลาด ซื้อกันมันส์มือจริงๆครับ แต่เห็นได้ว่า TFEX และหุ้นใหญ่ๆตัวอื่น ยังเจอแรงขายกดอยู่พอสมควร อีกทั้งวอลุ่มซื้อขายที่ผ่านมาสองวันนั้น ไม่ได้เยอะอย่างที่ควรเป็นครับ พรุ่งนี้นี่ตลาดก็น่าจะยังคงพยายามที่จะทดสอบบริเวณ 990 จุด แต่ดูจากแนวโน้มแล้ว...อาจจะย่อก่อนครับ เพราะสัญญาณระยะสั้น เริ่มดูไม่ดีเท่าไหร่ แรงขายน่าจะเยอะกว่าวันนี้ครับ แนวรับสั้นก็ 975 จุด แนวรับใหญ่ก็ 950 จุด ประมาณนั้นแหล่ะครับ ส่วนแนวต้านก็ 991.04 จุดตามเส้น Fibonacci ถ้ายืนได้มั่นคง...1000 จุด อาทิตย์หน้าได้ลุ้นครับ หุหุ

ตลาดช่วงนี้ใครกำไรยังไง ก็อย่าลืมแบ่งเงินไปทำบุญน่ะครับ กุศลงามๆ จะได้ย้อนเข้าตัวเราครับ ^__^

โชคดีครับ

Wizard Kid (พีร์)

00:00
28 Jan 2011

Tuesday, January 25, 2011

Update ตลาดหุ้น...แนวโน้มต่อไป จะลงต่อ หรือรีบาวน์...มาดูกันเป็นแนวทางครับ

ไม่เอื้อนเอ่ยใดๆน่ะครับ ตลาดเป็นแบบนี้...พูดได้คำเดียวว่า...เศร้าแด๊ก!! ใครหนีทัน ก็ดีใจด้วยครับ...ใครติดดอย ก็ขอเป็นกำลังใจให้ คิดแง่ดีว่า ตลาดร่วงแรงๆแบบนี้ เป็นโอกาสดีที่จะเข้าซื้อครับ...แต่ปัญหาคือ...จะเข้าซื้อ ณ จุดใด..

ไม่มีใครรู้หรอกครับ.....ฉะนั้นแล้ว มาลากกราฟกันดีกว่าครับ 

SET ระยะ Day


เมื่อ SET หลุดสามเหลี่ยมทองคำ 1030 จุด...ถ้าตามหลักแล้ว...ต้องขายครับ...ต้องหนี...ต้องไม่มีของ...ต่อมาเมื่อหลุด 1000 จุด ซึ่งเป็นแนวรับโคตรสำคัญทางจิตวิทยาแล้วนั้น...SET ก็หมดแรงที่จะดันต่อครับ...ก็เลยมุ่งไปทดสอบที่ 980 จุด...หลุดอีกครั้ง...ก็ลงไปแตะ low รอบที่แล้วที่เด่นชัดก็บริเวณ 963 จุดพอดี (อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น)

Slow Stochastic --> เริ่มเข้าเขต Oversold แล้ว
MACD  --> อยู่ต่ำกว่า 0 เป็นสัญญาณขาลงเต็มตัว
EMA --> ตัดลงมาแทบจะทั้งหมด เหลือเส้นสำคัญที่ 915-920 จุด..มีโอกาสลงไปทดสอบเช่นกันครับ
Bollinger Band --> ตัวนี้แหล่ะครับที่ทำให้คนติดหุ้น มีลุ้น...เนื่องจาก SET หลุด BB Bottom ไปเยอะมากๆๆๆ ดังนั้นแล้ว โอกาสรีบาวน์ในวันพรุ่งนี้ ย่อมมีสูงทีเดียว...

ส่วนจะรีบาวน์ได้ถึงไหน..มาดูกราฟต่อไปดีกว่าครับ

SET ระยะ 120 นาที


อันนี้มองในแง่ที่ว่า...ถ้า SET ไม่หลุด Low เดิมของวันที่ 963.68 จุด น่ะครับ...โอกาสรีบาวน์มีสูง ในแง่ของ technical เนื่องจากกราฟทุกระยะนาทีตั้งแต่ 1 5 15 30 60 และ 120 ต่าง "โคตร OVERSOLD!!" ไม่รู้จะขายกันให้จมดินกันเลยหรืออย่างไร เหอๆๆ...โอกาสไปทดสอบต้านแรกที่ 980 จุด มีแน่นอน..หากไม่ผ่าน...ก็ให้ 963 จุดนี่แหล่ะครับ เป็นแนวรับ...ส่วนหากมีแรงซื้อแรงมากๆ ทะลุ 980 จุด ก็ต้องมอง 1000 อีกครั้งครับ จะถึงไม่ถึง เหอๆๆ ลุ้นเหนื่อยหน่อยน่ะครับ

ปิดท้ายด้วยกราฟที่สยองขวัญคนมองภาพใหญ่น่ะครับ

SET ระยะ Week




นี่แหล่ะครับตัวที่น่ากลัวทีุ่สุด...กราฟระยะ Week!! สังเกต MACD กับ EMA น่ะครับ...แทบจะไม่เคยพลาด...ถ้ามันตัดลงเนี่ยะ....หนาววววววว 920 จุดนี่ เด็กๆไปเลย...เผลอ 850-860 จุด ก็ลงไปถึงได้ ถ้าพี่หรั่งยังทำตัวน่าตบน่าขังแบบนี้...ถ้าเล่นตามสัญญาณระยะนี้นี่...ไม่ควรมีของในพอร์ทเลยครับ...รอให้ตัดขึ้นใหม่ แล้วไปซื้อทีหลัง ดูจะปลอดภัยกว่า....

ขอให้ทุกๆท่านโชคดีน่ะครับ...หากขอพรได้ข้อนึง ก็อยากจะขอให้ SET ไปยืนพันจุดได้อีกครั้งในเร็ววันนี้ครับ โชคดีคร้าบบบ

Wizard Kid (พีร์)

00:00 น.
25 Jan 2011

Sunday, January 23, 2011

ตลาดขาลง...คุณจะโทษใคร? ความในใจจาก Prop. Trade T___T"

ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นบ้านเรา เละ!! พอสมควรเลย...จึงเริ่มเกิดกระแสคำถามที่ว่า...

….SET จะเป็นขาลงเต็มตัวกันแล้วหรืออย่างไร

คำตอบง่ายๆครับ...

...ไม่รู้หรอกครับ...

...หุ้นอาจจะดีดกลับไปทดสอบ High เดิมที่บริเวณ 1050 จุด อีกครั้ง หรือดิ่งดับหลุด 1000 จุด แบบถาวร ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น...

...แน่นอนที่สุดคือ...ยามที่หุ้นดิ่ง 2-3 วันติด แบบแรงๆเช่นนี้นั้น...ย่อมมีอาการที่เรียกว่า จิตตก หรือที่ผมชอบเรียกว่า นอยด์แด๊กเกิดขึ้นในหมู่นักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

ชาวดอย

...กลุ่มนี้แหล่ะครับ...จะแสดงอาการชัดเจนที่สุดว่า รับไม่ได้กับการทิ้งลงแรงๆของตลาดหุ้น....ไม่มีใครรับได้หรอกครับ ไม่ว่าจะรายใหญ่หรือรายย่อย ไม่ว่าจะเป็นโบรกเกอร์หรือพอร์ทโบรกเกอร์ หรือแม้กระทั่งกองทุน...ไม่มีใครอยากเห็นหุ้นร่วงแรงๆติดๆกัน 2-3 วันหรอกครับ

ใครมันจะไปอยากเห็นหุ้นขาลง!!
...ทำไม?...

ถ้าในแง่ของโบรกเกอร์...แน่นอนครับว่ารายได้จากค่าคอมมิชชั่น จากวอลุ่มซื้อขายนั้น ย่อมลดลงอย่างแน่นอน เนื่องจากลูกค้าของบริษัท ต่างติดดอย ติดหุ้น ไม่กล้าขาย...ที่สำคัญคือ...เมื่อเงินมันอยู่ในหุ้นหมดแล้ว ลูกค้าเหล่านี้ก็ไม่คิดที่จะซื้อขายเป็นระยะเวลาพอสมควร...รายได้หดกันเห็นๆ
พอโบรกเกอร์มีปัญหา...คนที่จะซวยที่สุดก็จะเป็นมาร์เก็ตติ้ง หรือคนรู้ใจทางด้านการลงทุนของคุณๆทั้งหลายนี่แหล่ะครับ...ถ้าวอลุ่มหด ก็ซวยเลย ใครไม่เจ๋งพอ ลูกค้าไม่ซื้อขายบ่อยๆ มาเจอตลาดขาลงหรือซึมๆหลังจากทิ้งดิ่งแรงๆ..เดือนนั้นคือหายนะ!! มีสทธิ์โดนจับตามองได้จากบริษัท วอลุ่มไม่ถึงเกณฑ์บ่อยๆ....เด้ง!! ตกงาน! น่าเห็นใจครับ

สำหรับกองทุน...ใช่ว่าจะกำไรทุกกองทุนน่ะครับ โดยเฉพาะในตลาดขาลง เห็นๆกันอยู่ว่าผลตอบแทนติดลบกันก็มี ดูได้จากอดีตที่ผ่านมา

ที่เจ็บยิ่งกว่าก็คือ...ตอนกำไรลูกค้าของทั้งกองทุนและโบรกเกอร์ ก็กำไรสบายใจ ส่วนใหญ่มักจะไม่เคยคิดขอบคุณกองทุนและโบรกเกอร์ที่ช่วยดูแล...แต่ยามขาดทุน เจ๊งบ๊ง! พวกพี่เล่นด่ากราด โทษนู่นโทษนี่ เพราะคิดว่าทั้งกองทุน และโบรกเกอร์คือตัวการใหญ่ ที่ทำให้นักลงทุนรายย่อยเจ๊งกัน...
เพราะความลุ่มหลงที่คิดว่า...

ข้าคือสุดยอดเทรดเดอร์
ข้าคือ The Best
ซื้อเป็นขึ้น ขายเป็นลง

...ยินดีด้วยครับ...

...คุณติดกับดักชิ้นใหญ่ และเตรียมเป็นเหยื่ออันโอชะได้เลย!

เพราะอีโก้ที่ติดตัวอันนี้นี่แหล่ะครับ มันจะทิ่มแทงคุณอย่างเจ็บปวดทีเดียว ในยามที่หุ้นเป็นขาลงแรงๆ
โดยเฉพาะช่วงนี้...ที่เป็นกระแสวิพากษ์วิขารณ์ตามเว็บต่างๆก็คือ...

..ทำไมกองทุนและพอร์ทโบรกเกอร์ ไม่ช่วยกันดันตลาด ซื้อพยุงไม่ให้ SET ลงจากแรงขายถล่มทลายของฝรั่งทั้งหัวดำและหัวทอง...

สำหรับผมแล้ว ในฐานะที่เคยผ่านการลงทุนในรูปแบบของนักลงทุนรายย่อย มาร์เก็ตติ้งหุ้นและฟิวเจอร์ จนกระทั่งมาเป็น Prop. Trade หรือพอร์ทโบรกเกอร์นั้น ย่อมเข้าใจความรู้สึกของทุกๆฝ่ายครับ...(แต่ไม่เข้าใจกองทุนกับฝรั่งน่ะ ยังไม่เคยบริหารพอร์ท)

ผมคงไม่สามารถออกความเห็นเรื่องนี้ได้มากมายนักครับ มันเกี่ยวข้องกับสายอาชีพผมด้วย...แต่ที่อยากจะบอกและอยากจะให้ลองคิดอีกแง่น่ะครับว่า..

SET ขึ้นมาจากจุดต่ำสุดที่ 380 มาถึง 1150 จุดเนี่ยะ..ก็ประมาณ 260%...ไม่มีใครชมฝรั่ง กองทุน หรือแม้กระทั่งพอร์ทโบรกเกอร์เลย...แต่พอถึงคราวหุ้นลง 2-4% รอบนี้จาก 1050 มาบริเวณ 1000 จุด....3 กลุ่มนี้ โดนด่าลั่นทุ่ง...(แอบน้อยใจ T__T หุหุ)

แล้วทำไมกองทุนกับพอร์ทโบรกเกอร์ ถึงไม่ช่วยกันพยุง?

คิดแง่ๆน่ะครับ...สมมติคุณมีวงเงินใหญ่มากๆ ที่ 5 พันล้านบาท...แต่คุณรู้ว่ารายใหญ่ที่คุมตลาดได้มี 5 หมืนล้านบาท แล้วคาดเดาว่า รอบนี้รายใหญ่จะขายประมาณ 2 หมื่นล้านบาท...คุณจะบ้าไปรับของที่เค้าจะขายหรือไม่...ทำไมไม่รอให้เฮียแกขายเรื่อยๆ จนสะเด็ดน้ำ แล้วไปซื้อต่ำๆ จะดีกว่ามั๊ย?
คิดดูน่ะครับ..เป็นคุณจะไปรับมีดช้อนซื้อในสภาวะที่ตลาดไม่แน่นอนหรืออย่างไร..

อย่าลืมน่ะครับว่า

ตลาดหุ้นก็เปรียบได้ดั่งชีวิต
ย่อมมีขึ้น มีลง ตามสภาวะและจังหวะของมัน

ดังนั้นแล้วเนี่ยะ การที่คุณๆทั้งหลาย คิดจะเอาแต่ให้หุ้น ขึ้นอย่างเดียวไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่มีการขาย การปรับฐานเลยเนี่ยะ...

อย่าลงทุนในหุ้นเลยดีกว่าครับ

ความคิดแบบนี้...ค่อนข้างเห็นแก่ตัวเอง คิดแต่ได้อย่างเดียวไปหน่อย..ตลาดหุ้นน่ะครับ ไม่ใช่ตลาดสด จะมาต่อรอง เรียกร้องอะไร ก็คงไม่ได้...เพราะมันคือตลาดการลงทุน ที่มีผลประโยชน์เป็นเดิมพัน...ผลประโยชน์มหาศาล!! คุณไม่ได้ก็ต้องเสีย...แค่นั้นเอง...ต้องเข้าใจสัจธรรมข้อนี้

นักลงทุนทั่วไป...ไม่ใช่ว่าจะเจ๊งทุกคน..คุณเจ๊ง..เพื่อนคุณได้...คนรู้จักคุณหมดตัว..คนที่คุณไม่รู้จักก็รวยได้เช่นกัน เพียงแต่คนที่ได้กำไร จะไม่ค่อยออกมาพูดอะไร...ก็กำไรนิ เอาเงินไปเที่ยวดีกว่า..ถูกมั๊ยครับ
ส่วนคนที่ขาดทุนนั้น..ช่วงนี้แหล่ะครับเป็นช่วงที่ดีที่สุด ที่เราจะต้องคิดว่า...เพราะอะไรเราถึงขาดทุน ทำไมเพื่อนเรากำไรหรือเอาตัวรอด พอร์ทไม่เจ๊งได้..ทั้งๆที่ซื้อหุ้นตัวเดียวกันกับเรา ทำไมเพื่อนหนีทัน เรามัวทำอะไรอยู่...

ถ้าคุณหาข้อนี้เจอ..แล้วแก้ไขมันได้..ใครก็เอาเงินคุณไปไม่ได้หรอกครับ..

ดังนั้นแล้ว...

อย่าโทษคนอื่น โทษตัวเองให้มากที่สุด
แล้วแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำซ้อน

สำหรับตลาดที่ลงมาอาทิตย์ที่แล้วนั้น...

ถ้าคนที่เล่นแนว Technical แบบมีวินัยสุดๆ เอาแค่กราฟที่ใช้กันทั่วๆไป...SET ส่งสัญญาณถอยหนีรอบนี้ บริเวณ 1030-1035 จุดน่ะครับ...ถ้าเชื่อกราฟ ยังไงก็ต้องถอย ไม่มีของในมือ ยกเว้นว่าหุ้นที่คุณถือจะเป็นหุ้นเล็กสวนตลาด...ส่วนหุ้นใหญ่ ยังไงก็ต้องลงตามเทรนด์ตลาดภาพรวม..ยกเว้น PTT ที่แกร่งจริงๆ อันนี้ก็ยินดีกับคนที่มี PTT น่ะครับ

ถ้าเป็นคนเล่นแนว VI ก็ไม่ต้องซีเรียส เพราะหุ้นที่คุณซื้อ ก็คือหุ้นที่คุณไม่คิดจะขายอยู่แล้ว...เพราะคติของ VI ก็คือ หุ้นจะขึ้นหรือลงในระยะสั้น เค้าเหล่านั้น ย่อมไม่หวั่นใจ...ยิ่งลงยิ่งชอบ จะได้ซื้อของถูก (จริงมั๊ยครับป๋าแพท หุหุ)

แต่ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าคุณเป็นนักลงทุนแนวใด...หาตัวตนคุณให้เจอก่อนลงสนามจะดีที่สุดครับ...ไม่งั้นเหนื่อยแน่นอน..คุณต้องรู้ก่อนว่าคุณเป็นนักวิ่งระยะใด..สั้น กลาง หรือยาว...ถ้าคุณรู้ คุณก็ได้เปรียบนักวิ่งสมัครเล่นแน่นอน   ที่สำคัญคือ ความตั้งใจและความมุ่งมั่นครับ...

..คุณคิดว่าใครจะชนะ...

...ระหว่างคนที่ผ่านการฝึกฝน ผ่านสนามแข่งมาแทบทุกประเภท และทุ่มเทกับการเทรด การลงทุน แบบที่เรียกว่า นั่งติดหน้าจอทั้งวัน นั่งเฝ้าดูหุ้นที่ถนัด จับอารมณ์ของตลาดได้...คนแบบนี้ ยังไงก็ไม่เจ๊ง ถึงโดนก็โดนไม่มาก เพราะเค้าเหล่านี้ เคยผ่านมาแล้ว ประสบการณ์มันสอนคนครับ...

...กับ...

...คนที่รู้นิดหน่อยๆ ผ่านสนามมายังไม่ถึงครึ่งสนามเลย และใช้เวลาฝึกฝนการเทรดแทบจะนับชั่วโมงได้ แถมนั่งดูตลาดแค่ไม่กี่นาที ก็ไปเที่ยว ไม่ก็ทำงานประจำที่ตนเองทำอยู่ (กลุ่มนี้แนะนำให้เป็น VI น่ะครับ) อยากรู้อะไร ก็โทรถามมาร์...แต่ไม่ได้เห็นการเล่นวันด้วยตนเอง...เหนื่อยน่ะครับ ถ้าอยากจะอยู่รอดในตลาดหุ้น

ยังไงซะคนที่มีวินัย ผ่านการเทรดมาโชกโชน เจ็บแล้วจำ นำมาเป็นบทเรียน..ยังไงก็ย่อมจะได้เปรียบกว่าแน่นอน..

ทิ้งท้ายอีกนิดน่ะครับ...

ช่วงตลาดเป็นขาขึ้น...ทุกคนก็ล้วนแต่หวังกำไร...ลงทุนกันยกใหญ่...ตลาดคึกครื้น...ได้กำไรกันถ้วนหน้า
พอดัชนีเริ่มลง..พากันตกใจกลัว...หารู้สัจธรรมไม่...หุ้นขึ้น ก็ต้องมีลง....หากดัชนีขึ้นไปต่อเนื่องอยู่ตลอด...นั่นคือราคาหุ้นโดยเฉลี่ยสูงขึ้นเรื่อยๆ......มันก็ต้องลงบ้าง (ปรับฐาน)...หาไม่ SET ก็ขึ้นถึง 2000 จุด พันภายใน 3 เดือนนะซิ...จริงมั๊ยครับ...ซึ่งมันขัดกับหลักความเป็นจริงของตลาดหุ้น

การลงทุน...ควรมองการลงทุนระยะยาว อย่างน้อยก็ระยะ 1-2 เดือน...จนถึง 1-3 ปี ตามรอบหรือการเติบโตของหุ้น..หากดัชนี ลดมาบ้าง ก็อย่าตกใจมาก...

ที่สำคัญคือหากพื้นฐานบริษัทไม่เปลี่ยน...เศรษฐกิจในประเทศไม่ได้เลวร้าย...นอกประเทศก็พอไปได้...การเมืองก็พอไหว......อย่างนี้ก็ไม่ควรจะไปวิตกอะไรมาก...ปล่อยไปสักระยะ...ก็กลับมาเป็นปกติ

หากไม่โลภจนเกินไป....กำไรเฉลี่ยปีละ 10-15 % ก็น่าจะโอเคแล้วนะครับ....แต่หากโลภกว่านี้ก็ต้องใช้ฝีมือ...และยอมรับความเสี่ยงกันเอาเอง...ก็แค่นั้น...เลือกเอาตามนิสัยแต่ละคน...

ที่สำคัญคือลงทุนโดยใช้สติ...ใช้อารมณ์ให้น้อยที่สุด

โชคดีครับ

Wizard Kid (พีร์ บุญชนะวิวัฒน์)

23 Jan 2011 


Saturday, January 22, 2011

ตกตะลึง ตึง ตึง!! หุ้นฝาแฝด ต่างกลุ่ม ต่างเจ้าของ..แต่ขึ้นพร้อม ลงพร้อม..โอ้ว!!

สวัสดีครับมิตรสหายทุกท่าน...พอดีตอนนี้อยู่กับป๋ากิ้งและพี่ Jewro ณ ร้านแห่งหนึ่งย่านสีลม ก็เลยนั่งสนทนากันไปมา สุดท้ายก็มาเปิดกราฟคุยกัน...จนมาเอะใจกับหุ้นอยู่ 2 ตัว....

ทำไมหน้าตามันเหมือนกัน? ทำไมช่วงเข้าซื้อและขาย ก็คล้ายๆกัน...มิหนำซื้อ ราคาจากจุดเริ่มต้น ก็เริ่มจากบริเวณเดียวกัน แถวที่ฮายิ่งกว่าคือจุดขายก็แทบจะพร้อมกันอีก....

ทั้งๆที่หุ้น 2 ตัวนี้...อยู๋คนละหมวดอุตสาหกรรม คนละเจ้าของ ไม่น่าจะมี pattern เดียวกันได้เช่นนี้....

หรือว่า...เจ้ามือและคนทำหุ้นคือแก๊งค์เดียวกัน? อิอิอิ 

มาลองทายกันดูน่ะครับ...ว่าหุ้น 2 ตัวนี้...คือหุ้นอะไร...

แล้วเย็นวันอาทิตย์ ผมจะมาเฉลยคร้าบบบบ...

รางวัลสำหรับผู้ที่ทายถูกก็คือ........
....
....
....
   

แหะแหะ...ความรักจากพวกเราชาว S2M นั่นเอง อิอิ

ลองทายกันโลดคร้าบบบบบ

อันนี้เป็นกราฟราย Day เห็นได้ว่าเหมือนอย่างกับแกะ



มาต่อกันภาพใหญ่ที่ระยะ Week น่ะครับ....โคตรเหมือนเลย


อย่าคิดมากน่ะครับ...แต่คิดดูดีๆ ทายซิ หุ้นอะไรเอ่ย? อิอิ

โชคดีคร้าบบบ

Wizard Kid (พีร์)

Monday, January 17, 2011

เมื่อน้องมีมี่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับพี่ทิงทิง...ใครเสียว! ใครชนะ!! ใครแพ้!! (อ่านขำๆก่อนนอนครับ หุหุ)

สวัสดีภาคค่ำครับ..

ช่วงนี้ เห็นตลาดมันขึ้นๆ ลงๆ จนหลายๆท่านเวียนหัว ตาลาย จับทางไม่ถูก...ผมก็เบลอๆเช่นกันครับ อ่านทิศทางไม่ได้เลย เหอๆๆ

ก็เลยแต่งเรื่องราว..ที่คิดว่าเป็นสาเหตุของการแกว่งตัวบ้าๆบอๆ ของ SET ขึ้นมา..สดๆร้อนๆ..หุหุ

อ่านเล่นๆน่ะครับ...ราตรีสวัสดิ์คร้าบบบ


ทั้งน้องหมีและเฮียกระทิงคงกำลังคุยกันแบบนี้ครับ

น้องหมี: เฮ้ย พี่ทิงทิง...ปีที่แล้วเอ็งหล่อเมพอยู่ตัวเดียวเลยน่ะ..ไม่ปล่อยให้้ข้าได้โชว์หล่อบ้างเล้ยยยย

เฮียกระทิง: อย่าได้น้อยใจไป น้องมีมี่...เด๋วปีนี้..พี่ทิงทิง ขอหล่ออีกปี..จะได้บ่จ๊ะ? จุ๊บๆ

น้องหมี: ได้จ๊ะพี่ทิงทิง...แต่พี่ทิงทิงต้องสัญญาว่า จะขวิดน้องมีมี่ตัวเดียวน่ะจ๊ะ...อย่าไปหลงเจ้ากระต่ายโฉมงามซะหล่ะ...ได้ข่าวว่าปีนี้เป็นปีกระต่ายซะด้วย ชิชะ!!

เฮียกระทิง: ไ้ด้จ๊ะ...พี่สัญญา...ไม่หลงผู้ใด นอกจากเจ้า ที่พี่เฝ้าคอยยยย เอิ๊กๆ

.....สัญญาณโทรศัพท์ดังขึ้น..กริ๊งๆกร๊างๆ...

น้องหมี: ฮาโหลวววว...

สายนิรนาม: โหลสองโหล...ฝากบอกพี่ทิงทิงด้วยว่า...คืนนี้มาขวิดน้องต่ายน้อยด้วยน่ะจ๊ะ..อย่าลืม..รักน่ะจุ๊บๆ 
....น้องหมี....อึ้ง ทึ่ง งงแด๊กส์!!...วางสายโครมเดียว!!

เฮียกระทิง: น้องมีมี่จ๊ะ...ใครโทรมาหาพี่ทิงทิงเอ่ยยยย

น้องหมี: (เสียงเรียบ เยือกเย็น น่ากลัว) อ๋ออออ...เห็นว่า..ชื่อต่ายน้อย จ๊ะ....พี่ทิงทิงงงงงงง......

เฮียกระทิง: ต่ายน้อย....(คิดอยู่ 2 วินาที)...อ๋ออออ...เพื่อนที่ทำงานพี่เองจ๊ะ..มีอะไรเหรอ (ป๊าดดด...กล้าโกหกเนอะเฮีย เหอๆๆ)

น้องหมี: อ๋ออออ....อ้ายทิงทิง...เมิงตรายยยยยยยยยยยยยยยย!!!!! 

....%$^$^%^$%%#^#^^%^^&..... เละ!!! 

นี่คือเหตุผลที่น้องหมีและเฮียกระทิง....ซัดกันไปมาในปีนี้ครับ...

ศึกยกนี้จะเป็นเช่นไร...น้องหมีจะยอมให้เฮียกระทิงไปกิ๊กกับกระต่ายน้อยได้หรือไม่...หรือเฮียกระทิงจะยอมให้ปีนี้น้องหมีเป็นใหญ่...

ผมไม่รู้...คุณอาจจะรู้...แต่ที่แน่ๆ...เจ้ามือมันรู้!! เหอๆๆ

...จงมีสติอยู่ตน...ไม่มี (เบอร์) กิ๊กอยู่กับตัว...
...แล้วอายุการลงทุน (และอายุขัย) ของคุณจะยั่งยืนและยืนยงคร้าบบบบ เอิ๊กๆๆๆๆ...

อ่านขำๆก่อนนอนน่ะครับ...คิดมาสดๆ อารมณ์ดีเกิ๊นน หุหุ

Wizard Kid (พีร์)

Friday, January 14, 2011

ไม่ได้ดูหุ้นวันนี้...แต่เพื่อนๆถามมา..ลองวาดขำๆ อย่าซีเรียสไป.....PTT IVL และ SET ครับ

IVL ระยะ DAY



วันนี้คันมืออีกแล้ว..ขอดูหุ้นร้อนแรงที่สุด แดงเถือกที่สุด มันส์ระห่ำที่สุด และเป็นที่ด่าขาน เอ๊ย! กล่าวขานกันมากที่สุดตัวนึงตอนนี้ครับ.....IVL (ไอ วิ่ง ร่วง) -_____-"

ลองวาดกราฟขำๆแล้ว บวกกับลากเส้น Fibonacci ขำๆดู....เห็นได้ว่ามันก็ลงมาแทบจะสุดๆเหมือนกัน (ลงมาพอๆกับราคาที่ว่าจะเป็นราคาขาย big lot เลยครับ...แสบจริงๆ)

เห็นได้ว่า ราคาที่ 45 บาทเริ่มยืนอยู่แล้ว....คนเล่นสั้น ขยันซอย ชอบซิ่งๆ ก็น่าสนน่ะครับ...เข้าตรงไหนไม่รู้ แต่จุดคัทลอสก็คือ 45 บาท...หากหลุดแรงๆ ก็ถอยอย่างเดียว...แต่โอกาสทะลุ 49 บาทก็มีพอตัวเลยครับ...รอบนี้สูตรเด็ด... รับ 45 ต้าน 49 ครับ...ทะลุ 49 ได้...54 บาทคือโคตรแนวต้านต่อไป...ลงแรงเหมือนน้ำตกได้ ถ้ามันกลับตัวดีดแรง ก็ดีดได้เหมือนพลุเช่นกัน...แต่หากยังเล่นข่าวกดดันกันต่อ พร้อมทั้งมีวอลุ่มขายกดอีก... 45 บาทคือแนวรับ...หลุดแรง...41-42 บาทได้เลยนา....

ใครชอบถือยาว...ยังไม่เชียร์ครับ...ใครชอบสั้นๆ วินัยสูง ก็ตามสบาย คีย์ให้ไว ตัดสินใจให้ว่อง วินัยเทรดเยี่ยม...ลุยโลดด อิอิ โชคดีน่ะคร้าบบบบบ

เกือบลืม...สัญญาณระยะ DAY เริ่ม oversold แล้ว...ส่วนระยะ 120 นาที...ตัดขึ้น!! ลุ้นเอาน่ะครับ ^__^


PTT ระยะ Day และ 120 นาที


มาดูต่อกันที่พี่เบิ้มอย่าง PTT น่ะครับ...ดีดกลับขึ้นมาเป็น V-Shape ในระยะ 120 นาทีอย่างชัดเจน..โอกาสขึ้นได้ต่อก็มีครับ...แต่คงไม่มาก....เพราะสัญญาณตั้งแต่ 15 30 60 120 นาที เริ่มเป็น Overbought แล้ว...มีสิทธิ์ที่จะย่อหรือดิ่งอีกครั้งครับ...เผลอๆจะเป็น W-Shape เอาได้ เพราะเวลาดีดมาแบบไม่มีการสร้างฐานนี่...ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ครับ เพราะเกิดเจอแรงขายแรงๆ มันก็แทบจะลงกลับไปทีเดิมได้เลย บริเวณ 316 นั่นแหล่ะครับ...แนวรับดูแล้วเป็น 330 แนวต้านก็เป็น 340 บาท...ที่น่าลุ้นหน่อยก็คือระยะ Day ทั้ง MACD และ Slow Stochastic ก็ตัดขึ้นแล้ว...น่ารักน่าลุ้น แต่อย่าลุ้นเพลินน่ะครับ..เตรียมขายทำกำไรหรือคัทลอสไว้เสมอ..แล้วจะดีเอง ชะเอิงเอยยยย ^__^

SET ระยะ Day และ 120 นาที



มาปิดท้ายด้วย SET กันครับ....โอ้วววว นี่มันคล้ายๆกราฟ PTT ชัดๆ เป็น V-Shape เลย เหอๆๆ....แสดงว่าถ้าเฮีย PTT ทิ้ง SET ก็ดิ่ง...หาก PTT ดีด...SET ก็โดด...ง่ายๆ แต่คาดเดายากจริงๆ...

ดูกราฟแล้ว ไม่มีอะไรมากมายครับ...ทะลุ 1040 จุดได้...ลุ้น High เดิมที่บริเวณ 1055-1056 อีกครั้ง...แต่หากไม่...ก็ 1010 จุดอีกครั้ง ว่ารับไหวรึเปล่า..ตลาดช่วงนี้ เป็นแนว trading ลงแรงซื้อ ขึ้นแรงขายประมาณนั้นเลยครับ... แต่หากมาดูระยะ 120 นาทีแล้ว...เหมือน PTT อีกเช่นเคย เริ่มเป็น Overbought แล้ว...ระวังก็ดีน่ะครับ...สัญญาณพวกนี้ ไม่ค่อยหลอกตาเรา มีแต่เราหลอกตาตัวเองครับ

โชคดีน่ะครับ จะเอาใจช่วยจากจังหวัดกระบี่...ขอให้รวย ขอให้เฮง ขอให้พอร์ทเขียวขจีทุกท่านเลยคร้าบบบบ

จงมีสติอยู่กับตน น่ะคร้าบบบ ^__^

Wizard Kid (พีร์)
14 Jan 2011

Monday, January 10, 2011

ตลาดลงแรง...เพราะอะไร...เพราะเหตุใด..รู้ก็รวย!! ถ้าไม่รู้ก็....ลำปาง หนาวมากกก!!

หลังจากที่ตลาดร่วงหล่นตุ๊บ เหมือนกระสุนปืนตัดขั้วเส้นเลือดใหญ่

ก็มีสายกระหน่ำซัมเมอร์ซ้อลลลล...โทรมาทั้งช่วงพักเที่ยงและหลังตลาดปิด.. รวมไปถึงใน facebook ครับ

เช่น....

"เฮ้ย! พีร์ ทำไมวันนี้หุ้นลงหนักจังว่ะ"...

"กูติดดอย...เอาไงดี...ช่วยด้วย!!"  (ตรูไม่ใช่พระเจ้าจะมาช่วยใครได้นา..เหอๆๆ)

ผมก็ไมู่้รู้จะอธิบายยังไง...ก็ได้แค่บอกว่า "ก็หุ้นมันจะลง ก็ต้องลง มีแรงขาย ก็ต้องลง มึงจะให้มันขึ้นได้ไง...ฮ่วย!"

เพื่อนๆก็เลยบอกให้ป๋มลองอธิบายคร่าวๆว่า หุ้นรอบนี้ที่ลง มันลงเพราะเหตุหนกลใด...

ผมก็คิดหนักเลย...เพราะบอกไป ถ้าถูกก็แค่เสมอตัว ผิดขึ้นมา...เสีย dog ทันที..ก็เลยอธิบายภาพคร่าวๆ ที่สังเกตุมาตั้งแต่ตั้งแต่วันพฤหัสที่แล้วครับ (6 ม.ค. 2553) แล้วกันน่ะครับ...ไม่มีกราฟ แต่เอาจากภาพติดตาที่เห็นน่ะครับ...คิดเห็นต่างอย่างไร ก็มาแชร์ๆกันโลดคร้าบบบ เพราะการแบ่งปันซึ่งกันและกัน คือสิ่งที่ทุกคนควรกระทำคร้าบบบ

ก่อนอื่นเลย มีเพื่อนๆ ถามว่าทำไมหนังสือพิมพ์และบทวิเคราะห์โบรกเกอร์ ถึงไม่เตือนเค้าเลยว่า

"วันนี้หุ้นจะลง!!"...

คำถามยอดฮิตตลอดกาลจริงๆ...เหอๆๆ

ผมขอแสดงความคิดเห็นตรงๆน่ะครับ..
..ผมไม่ค่อยเชื่อ นสพ. กับ broker เท่าไหร่หรอกครับ (อ่านเอาให้พอรู้ว่าใครคิดอย่างไร อะไรเกิดขึ้นบ้าง ก็พอแล้วครับ)...เพราะข่าวจากสื่อสองแห่งนี่..มันมาช้าเกินไป...อีกอย่าง..สู้เราฝึกฝน เชื่อมั่นในวิธีเทรดที่เราคิดว่าได้กำไรแน่ๆ จะดีกว่าครับ จกำไระ % มากน้อย ก็ไม่เป็นไร..อย่างน้อยเวลาเราเสีย..เราก็จะได้โทษตัวเอง ผิดเอง ไม่ต้องโทษคนอื่นครับ...เพราะเวลาเราขาดทุน นสพ.กับโบรกเกอร์ เค้าไม่รู้สึกเจ็บกับเราแน่นอนครับ...ผมเป็นมาร์เก็ตติ้งมาก่อนเหมือนกัน...จึงได้เรียนรู้ว่า มาร์ก็ไม่ได้เก่งกว่าลูกค้าแน่นอน...มาร์ที่เก่งๆมี แต่คนที่ไม่เก่งก็มีเช่นกันครับ..เชื่อมั่นตนเองในวิถีเทรดของตัวเอง ดีที่สุดครับ....

ส่วนเรื่องที่ตลาดลงแรงวันนี้นี่...อาการมันส่อแววมาตั้งแต่วันพฤหัสที่แล้วน่ะครับ..SET มีแรงซื้อเยอะ..แต่ TFEX ถ้าสังเกตุตลอดเวลา จะเห็นว่า...มีแรง Short ที่รุนแรงกว่าขา Long ครับ..(โดนมาแล้ว เลยพอจับทางได้) ยิ่งมาเจอตลาดวันศุกร์ ยิ่งชัดเลยว่า กลุ่ม Bank ที่เคยเด่นดังนำตลาด...เจอแรงขายหนัก.ยกเว้น BBL ตัวเดียว..ส่วนพลังงานก็ TOP นี่แหล่ะครับ..ขายโหดเกิ๊น...แล้วก็ PTT เห็นได้ว่า แรงซื้อมันไม้ยิบๆย่อยๆ...แต่แรงกดขาย แต่ละไม้นี่...ไม้เดียวหาย!! แล้วก็กดตลอดเวลา...ยิ่งมาดูสัญญาณ technical ประกอบ ยิ่งชัดครับว่า...ลงได้อีกแน่นอน...

พอมาวันนี้...วันนรกแตก แดงเดือดเรียกพี่...ปอเต๊กตึ๊งเรียกหา...ICU จึงต้องมา...รับศพคนเจ๊ง..ติดหุ้นตายเลย...T____T

จากที่สังเกตุน่ะครับ...แรงกดทั้งหุ้นและ TFEX รอบนี้...หนักกว่ารอบที่ผ่านๆมา...หนักกว่าตอน SET หลุด 1000 จุดรอบแรกอีกครับ...ผมไม่ได้ bias อะไร...ถ้าตาม technical...ระยะ Day และ Week โดยเฉพาะระยะ Week....มันลง!!! ได้เรื่อยๆ!!

แต่ถ้าระยะ 15 30 60 120 นาที...พรุ่งนี้ SET มีลุ้น rebound เด้งดึ๋ง...แต่ไม่น่าจะดึ๋งๆดั๋งๆ จนไปทดสอบ high เดิมได้...ใครติดของวันนี้ ก็ลุ้นกันโลดคร้าบบบบบ

ส่วนคนเทรดตามระบบ...ก็อยากให้เทรดตามระบบต่อไปครับ...ตัดอารมณ์ออก ให้เหมือนคนไร้สมรรถภาพทางเพศโลดด ฮ๋าๆๆๆ...แล้วจะแหล่มเอง..อิอิ (ชีวิตจริงต้องมีอารมณ์ร่วมน่ะครับ ฮ๋าๆๆ)

SET จะร่วงต่อ หรือรีบาวน์...ไม่มีใครรู้แน่นอน...ขอแค่เรามีการเตรียมความพร้อมที่ดี...ยังไงก็ไม่ล้มหายตายจาก...จากตลาดหุ้นแน่นอนครับ..สู้ต่อไป ทาเคชิ มิยาบิ อาโออิ ลอรีเอะ!! เอิ๊กๆๆๆๆ :index_101:

โชคดีมีชัย ร่ำรวยปลอดภัย พอร์ทเขียวๆๆๆน่ะคร้าบบบบ

คิดฮอต รักหลาย จุ๊บๆ

Wizard Kid (พีร์)
10 ม.ค. 2554

ปล..สำหรับเรื่องที่หุ้นลงวันนี้นี่...ลองดูที่ผมเขียนเล่นๆ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาน่ะครับ...ถ้าไม่ bias ยังไงก็ต้องดูออกว่าหุ้นจะลงแน่ๆ...แต่มันก็ลงแรงกว่าที่คิดไว้เกือบ 10 จุดแหน่ะ...โหดจริงๆครับ http://wizard-kids2m.blogspot.com/2011/01/set-overview.html

Sunday, January 9, 2011

มาดู SET Overview อาทิตย์หน้ากันครับ..ไหวไม่ไหว...ลุย!!

สวัสดีวันอาทิตย์ุวันสุดท้ายของการพักผ่อนประจำอาทิตย์นี้ครับ พรุ่งนี้ก็จะเป็นอาทิตย์ที่สองของปีกันแล้วน่ะครับ...มาดู SET Overview กันดีกว่าครับ แหะแหะ

SET ระยะ Day


กราฟระยะ Day นี่ยังเลี้ยงๆในกรอบสามเหลี่ยมน่ะครับ...โอกาสลงมาทดสอบ 1020-1030 จุด มีสูงทีเดียว...แต่จะหลุดทะลุล่างเลยหรือไม่ ตอบยากจริงๆ เพราะช่วงนี้ตลาดเล่นกันวันต่อวันครับ เป็นแนว trading มากกว่า buy and hold หรือ wait and see ครับ...หุ้นแต่ละตัวบางทีอยู่ในกลุ่มเดียวกัน แต่ตัวนึงลง อีกตัวนึงขึ้น...ใครจับถูกทาง รวย...ผิดทางก็ต้มมาม่ากินกันไปพลางๆ ฮ๋าๆ
...สัญญาณทั้ง Slow Stochastic และ MACD กำลังจะตัดลงครับ...ต้องมาเจาะลึกกันกับกราฟระยะ 120 นาทีดีกว่าครับ

SET ระยะ 120 นาที


อันตรายนิดนึงน่ะครับสำหรับ SET ระยะเจาะลึกที่ 120 นาที...MACD กำลังจะตัดศูนย์ลงมา...ทุกครั้งที่ตัดศูนย์นี่...สังเกตุน่ะครับ..ลงแรงทุกที...ดังนั้นโอกาสที่ SET จะลงมาทดสอบ 1020 จุดอีกครั้ง ก็มีสูงทีเดียวครับ...EMA ก็ตัดลงแล้วเช่นกัน ระวังหน่อยน่ะครับ สำหรับ SET อาทิตย์หน้า ^_^

SET ENERGY กลุ่มพลังงาน ระยะ 120 นาที


กลุ่มพลังงานนี่ แทบจะถอดแบบมาจาก SET เลยครับ..สั้นๆเลยว่า ขึ้นลงตาม SET นี่แหล่ะครับ...แต่ถ้าสังเกตุให้ดีว่า Slow Stochastic ลงมาต่ำมากแล้วเหมือนกัน...และทุกครั้งที่ลงมาบริเวณนี้...ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานจะเริ่มพักฐาน ลงต่อก็ลงไ่ม่เยอะ...หลังจากนั้นก็จะดีดกลับครับ...ลองดูเอาเองน่ะครับ มันดีดกลับจริงๆ...แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือ MACD ตัดศูนย์ลงมาแล้ว เป็น sell signal อยู่เลย...อาจจะต้องปล่อยให้ลงต่อไป แล้วรอให้โงหัวขึ้นมาได้ก่อน แล้วค่อย follow buy ดีกว่าครับ...แรงขายกลุ่มพลังงานนี่ขายตลอดเลยช่วงนี้...ดูกันยาวๆครับ

SET BANK กลุ่มธนาคาร ระยะ 120 นาีที


จากที่ได้เคยบอกไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่แล้วว่า กลุ่่ม BANK จะดีดแรง...ก็แรงจริงๆครับ...แต่ส่วนใหญ่มาเจอแรงขายหนักๆเอาวันพฤหัสและศุกร์ ยกเว้น BBL ตัวเดียว กล้าเขียวขจีอย่างสวยงาม..เหอๆๆ...
สัญญาณตอนนี้ ไม่ค่อยสวยแล้วครับ ตัดลงหมดทั้ง Slow Sto, MACD และ EMA ก็เริ่มมีเส้นตัดลงกันบ้างแล้ว...ระวังหน่อยก็ดีน่ะครับตอนนี้ ลงได้อีก...ถ้าอยากเข้าซื้อก็อาจจะเลือกตัวที่ลงแรงมากๆ แล้วไปรับซื้อเผื่อเด้งรีบาวน์ ทำกำไรระยะสั้นไปพลางๆครับ

SET Property กลุ่มอสังหาและวัสดุก่อสร้าง ระยะ 120 นาที


ปิดท้ายด้วยกลุ่ม Prop ครับ...แท่งเทียนทำราคาเป็น uptrend ขาขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป...เป็นแนว sideway up ซะมากกว่าครับ...ไม่แน่ว่ากลุ่มนี้อาจจะเป็นตัววิ่งสวนตลาดอาทิตย์หน้าก็เป็นไปได้...ต้องดูกันยาวๆครับ

อาทิตย์หน้ายังไงก็ขอให้โชคดีน่ะครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกท่าน

ขอให้สติจงมีแก่ตัว อย่าใ้ห้ความโลภเข้าครอบงำน่ะครับ

Wizard Kid (พีร์)

Update หุ้้น...เพื่อนถามมาจาก fan page คร้าบ


มาดูหุ้นอมตะที่ชื่อ AMATA ที่ไม่ใช่ AVATAR กันน่ะครับ อิอิ...(ก็เพราะมันมีขึ้นมีลงน่ะซิครับ)

กราฟมี 2 กราฟแบ่งกันไปเช่นเคย คือ 120 นาที กับ Day ครับ...จะเห็นได้ว่าในระยะ Day เนี่ยะ AMATA ได้ทะยานผ่านสามเหลี่ยมเสียวเว้ย!! ไปเรียบร้อยแล้วที่บริเวณ 14.7 - 14.8 บาทครับ...ถ้า Follow Buy ซื้อตามน้ำไป กำไรเห็นๆ!! ส่วนจะไปต่อจนทดสอบ High เดิมที่ 17.2 บาทหรือไม่...มีสิทธิ์ครับ..แ่ต่คงจะยังไม่ใช่ในวันสองวันนี้ครับ...(ถ้าไปถึงก็เฮ! ด้วยคน)

เพราะกราฟ 120 นาที ค่อนข้าง peak (จริงๆ กราฟระยะ 60 นาที ส่งสัญญาณชะลอการซื้อกับขายทำกำไรที่บริเวณ 16.30 บาท) ครับ...ผมลองวาดเส้น parallel หรือเส้นทางด่วนคู่ขนานดูในระยะ 120 นาที โป๊ะเช๊ะ!! ว่า 16.5 บาท คือ resistance line หรือสิ่งเล็กๆที่เรียกว่า "แนวต้าน" ก็เลยเจอแรงขายเข้าไป....และเท่าที่สังเกตุดูจากพฤติกรรมแท่งเทียนของ AMATA เนี่ยะ...ทุกครั้งที่ break ขึ้นแรงๆ...มักจะเจอแรงขายย่อลงใา 0.50 - 1.50 บาท แทบทุกครั้ง....ยิ่งรวมกับ indicators ที่ส่งสัญญาณชะลอการซื้อเนี่ยะ...มีสิทธิ์ที่จะย่อมาสร้างฐานที่ 15 - 15.50 บาทได้อีกครับ....

แต่ถ้ามีข่่าวดีอะไร...(เล่นข่าวนั่นเอง)...ราคาจะไป 17 บาททีเดียวเลยก็เป็นไปได้แน่นอน...ที่บอกมาก็แค่ตาม system trade น่ะครับ...ผิดถูกยังไง ก็อย่าลืมคัทลอสตัดขาดทุน หรือถูกทางก็ let profit runs โลดด...มีวินัยเทรด ยังไงก็ไม่หายไปจากตลาดตลอดกาลลลล อิอิ



มาต่อกันที่หุ้น "บ้า กัน ใหญ่" หรือ BGH กันน่ะครับ เอิ๊กๆๆ...มันบ้าไปแล้วจริงๆ ทะลุแนวต้าน 48 บาทได้...ดีดไปที่ราคาจิตวิทยา ครึ่งร้อย!! 50 บาทในวันเดียวเลยครับ บร๊ะเจ้า!! ถ้าดูพื้นฐานหุ้นตัวนี้นี่...หายห่วงจริงๆ ปึ้ก!! 


แต่...ถ้าคนเล่นกราฟไม่ดูข่าว...ผมขอนำเอากราฟระยะ 60 นาทีมาดูคู่กับระยะ Day น่ะครับ...เพราะใน 60 นาทีนี่...Slow Stochastic ค่อนข้างใช้ได้ทีเดียว...ดูเอาแระกันครับ...ตัดขึ้นก็ซื้อ ตัดลงก็ขาย..กำไร 1-2 บาทตลอดเว...อิอิ ล่าสุดก็กำลังอยู่ในเขต Overbought อีกครั้ง...โอกาสย่อลงมาก่อน ก็มีแน่นอนครับ...ถึงแม้ระยะ Day จะเพิ่งตัดขึ้นก็เถอะ...ราคา BGH น่าจะลงมาก่อน...รอให้ Slow Sto ตัดขึ้นอีกครั้งในระยะ 60 นาที..ก็ค่อยว่ากันอีกที...



แต่...ถ้าทุนต่ำโฮกๆ ถือไปเถอะครับ กล้าๆ Let profit runs ไป...ส่วนคำถามที่ว่าจะลงมาปิด gap ที่ 39.25 บาทอีกครั้งหรือไม่? อนาคตมันไม่น่าจะพลาดที่จะลงมาผิด gap ครับ...แต่เมื่อไหร่..ไม่มีใครรู้หรอกครับ...เอาเป็นว่า ถ้าไม่หลุด 46 บาท คุณถือ! ถ้าหลุดพร้อมวอลุ่มขายแรงๆ คุณหนี!! เพราะ 46 บาท...วอลุ่มหนาแน่นมากๆ..หลุดเมื่อไหร่ โกยเถอะโยม...แต่ถ้าจะไปต่อ ก็ฮุลาฮุป ส่ายเอวเยอะๆ รวยแยะๆกันน่ะคร้าบบบบ ^__^


โอ๊ะ ยางมะตอย ยางพารา ยางไม่มา มันไปไหนกัน!! มาดู TRUBB กันดีกว่าครับ...ขอเป็นกราฟ 60 กับ 120 นาทีน่ะครับ เพราะภาพการเล่นมันชัดกว่า Day เยอะ...หุ้นแบบนี้นี่ เป็นแนว...เสียว ซ่า พามันส์!! พาไปจุดสุดยอดทีไร...กระชากอารมณ์หายทู้กกกที!!! ตัวนี้นี่...Bollinger Band เหมาะมากครับ สำหรับเวลาหาจุดขาย...ทะลุ BB Top ก็ขาย (อันนี้ผมนั่งดูย้อนหลังตั้งแต่เดือน ก.ค. 53 น่ะครับ แต่กราฟที่เอามาเริ่มจาก ธ.ค. 53 ครับ)...สังเกตุให้ดีน่ะครับ ทะลุกรอบบนทีไร แท่งต่อๆมา ลงมาแรงๆ แล้วสร้างฐานๆ แล้วก็ค่อย break ขึ้นไปอีกครั้ง..เป็นแบบนี้ประจำเลย เจ้ามือโหดจริงๆ ไม่ยอมให้ได้กำไรกันแบบง่ายๆเลยเนอะคุณพี่!!

สำหรับสัญญาณระยะสั้นนั่น.. ตัดขายตั้งแต่ 7.60 บาททั้ง 60 และ 120 นาทีครับ...ถ้าตามวินัยเทรด...แทบจะไม่เจ็บตัวแน่นอน...สัญญาณเข้าซื้อยังไม่เกิด...ต้องรอดูว่าจะหลุดแนวรับใหญ่ 7.20 - 7.30 บาทหรือไม่...(สังเกตุแท่งเทียนน่ะครับ...หนาแน่นมากๆ) 

ใครติดดอยอยู่...ก็ระวังหน่อยน่ะครับ...ลำปางหนาวม๊ากกกก!! ถ้าไม่ชัวร์ก็คัทลอสตัดขาดทุน แล้วค่อยมาลุยใหม่ดีกว่าครับ...ตลาดและโอกาสมีอยู่เสมอ ให้กับคนที่พร้อมจะตะลุยกับมันน่ะครับ สู้ตาย ทาเคชิ อาโออิ ลอรีเอะ!!! 5555





มาดูต่อที่หุ้นเคยรักอย่าง IVL....แต่ช่วงหลังๆเริ่มเป็น..."อ้าว เวร ไหล" ซะงั้น ฮ่าๆ...ไหลลงเรื่อยๆ จนจะไปทดสอบแนวรับจิตวิทยา 50 บาทอยู่ร่อมร่อครับ...แต่ดูกราฟระยะ Day...มันไหลต่อน่ะครับ..ไม่มีสัญญาณเข้าซื้อเลย...เป็น trend ขาลง จนกว่าจะ break แนวต้านเส้นกรอบบนได้... ส่วนในระยะ 120 นาที ก็เริ่มเป็น oversold แล้ว...ใครรักเล่นสั้น มันส์ทะลุซอย ก็คงต้องดูว่า 52 บาท รับอยู่หรือไม่..รับอยู่ ก็พอแจมได้ กำไร 3-4 ช่องก็พอแล้วครับ อย่าโลภๆ เพราะเรามันเล่นสั้น เอิ๊กๆๆ...สัญญาณ MACD ไม่สวยทั้งสองระยะเวลาเลยครับ...ดูกันเบา เบา เฝ้ารอกันชิล ชิล ไปก่อนก็ได้ครับตัวนี้ รอให้ flow ขายหยุดสะเด็ดน้ำ แล้วไปเข้าทีหลัง ก็ปลอดภัยกว่าครับ 





มาที่ SVI กันครับ....ขึ้นมารอบนี้ไม่ทำ New High หรือทดสอบ High เดิมที่ 3.85 บาทครับ..ก็เลยย่อซะงั้น...สังเกตุกราฟดูน่ะครับ...ที่ 3.40 ถึง 3.60 แท่งเทียนค่อนข้างยาวทั้งขาลงและขาขึ้นไป...(แท่งแดงยาวๆกับแท่งเขียวยาวๆนั่นแหล่ะครับ...)...ราคาจึงไหลได้เร็วเป็นพิเศษในช่วงราคาตรงนี้... โอกาสร่วงมาทดสอบแนวรับที่ 3.40 บาทก็มีอีกครั้งครับ...ถ้าหลุดก็ปรื๊ดดดดได้ถึง 3.20 บาท ที่เป็นแนวรับโคตรหนาครับ...ดูกันเบา เบา อย่าพึ่งรีบร้อนดีกว่าครับ

Friday, January 7, 2011

เส้นทางอาชีพธุรกิจหลักทรัพย์...รุ่งหรือร่วง...มันอยู่ที่คุณ!! ไม่ใช่ใคร!!

พอดีไปอ่านเจอบทความน่าสนใจบทความนึงจากเว็บ http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=371524 ครับ...ก็เลยอยากจะมาแบ่งปันเพื่อนๆ โดยเฉพาะน้องๆที่เรียนใกล้จบ และคิดจะหางานทำ หรือไม่ก็สำหรับผู้ที่สนใจจะทำงานในสายหลักทรัพย์ครับ...มีประโยชน์มากๆเลย..


ลองอ่านดูน่ะครับ แล้วจะรู้ว่าอาชีพในสายธุรกิจหลักทรัพย์ มันมีมากกว่าโบรกเกอร์ครับ อีกอย่าง เมื่อถึงปีหน้า 2555 ธุรกิจหลักทรัพย์ จะมีการปรับตัวอย่างรุนแรง เนื่องจากการเปิดเสรี สงครามราคาจะเกิดขึ้น การแข่งกันลดค่าคอมฯ ซึ่งจะทำให้อาชีพเจ้าหน้าที่การตลาดอยู่ในฐานะที่ลำบากทีเดียว


โครงสร้างตลาดทุน




ตลาดแรก คือ ตลาดที่เจ้าของกิจการใช้ระดมทุน จากนักลงทุน 

ตลาดรอง คือ ตลาดที่นักลงทุน ใช้ในการบริหารสภาพคล่อง 
เพราะสินทรัพย์ที่ดี จะต้องมีสภาพคล่อง (คือเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่าย) 

ตลาดรอง 

ก็มีทั้งการซื้อขายในตลาดที่จัดตั้งเป็นทางการ และตลาดที่ไม่เป็นทางการ 
การซื้อขายในตลาดที่มีการจัดตั้งฯ ก็คือ การซื้อขายผ่าน ตลาดหลักทรัพย์ 
ซึ่งแยกตาม ลักษณะของตราสารทุน เช่น 

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ซื้อขาย ตราสารเป็นหลักทรัพย์ 
ตามนิยามของ พรบ. หลักทรัพย์ เช่น หุ้น วอแรนท์ กองทุนรวมอสังหาฯ ETF เป็นต้น 

ตลาด MAI ซื้อขายหลักทรัพย์ สำหรับธุรกิจที่มีขนาดย่อม และกำลังเติบโต 

ตลาดรองตราสารหนี้ (BEX) ซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นตราสารหนี้ 

ตลาดซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และตราสารอนุพันธ์ 
ตาม พรบ. ซื้อขายล่วงหน้าฯ 

การซื้อขายในตลาดที่ไม่เป็นทางการ ก็คือ คู่ค้าจะตกลงกันเอง 
เราเรียกรายการดังกล่าวว่า รายการ Put Through 


บุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์






ธุรกิจหลักทรัพย์ ถือว่า เป็นสถาบันการเงินประเภทหนึ่ง ดังนั้นสายวิชาที่เกี่ยวข้อง 
โดยตรง ก็หนีไม่พ้น สายบริหารธุรกิจ เช่น การบัญชี การเงิน การตลาด การจัดการ 
และสายเศรษฐศาสตร์ ซึ่งรวมไปถึง สายคณิตศาสตร์ ด้วย 

แกนหลัก ในการทำงานภาคการเงิน สรุปได้โดยกว้างว่า 
ต้องประกอบไปด้วย ทักษะ ด้าน การบัญชี ด้านคณิตศาสตร์และสถิติ 
ด้านกฎหมาย และด้านเศรษฐศาสตร์ เป็นพื้นฐานสำคัญ 

อย่างไรก็ตาม การทำงาน ไม่เหมือนการเรียนหนังสือ เพราะไม่มีอะไรตรงตัว 
ทุกๆ อย่าง ต้องการความรู้ที่หลากหลาย เรียกว่า บูรณาการศาสตร์ หรือ มีทักษะหลายด้าน 
ในตัวคนๆ เดียว หรือ สหวิชาชีพ คือ หลายๆ สาขา ทำงานร่วมกัน เพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน 

สายวิชาชีพอื่นๆ ที่เข้ามามีบทบาท ในธุรกิจหลักทรัพย์ 
และทวีความสำคัญเป็นลำดับ หลายสายงาน เช่น นิติศาสตร์ เนื่องจาก 
การทำธุรกรรมใจปัจจุบัน มีความสลับซับซ้อน และ มีประเด็นทางของกฎหมาย 
มากมาย หรือ สายวิศวกรรมศาสตร์ สายเทคโนโลยีสารสนเทศ ฯลฯ 

ซึ่งเมื่อบูรณาการวิชาความรู้ทั้งหลาย เพื่อประยุกต์ใช้งานได้จริงแล้ว 
ก็จะเรียกว่า เป็น ผู้มีวิชาชีพทางด้านการเงิน ซึ่งแตกแขนงออกไปเป็นหลายสายงาน 
แบ่งเป็น 2 ด้านใหญ่ๆ ได้แก่ 

หน้าบ้าน (Front Office) กับ หลังบ้าน (Back Office) 

.......................................................................................................... 

หน้าบ้าน หรือ Front Office ได้แก่ หน่วยงานที่ทำหน้าที่หลักในการหารายได้ 
เข้าองค์กร ซึ่งมีหลายสายงาน เช่น 


Corporate Finance หรือการบริหารการเงินขององค์กร เช่น จัดการสภาพคล่อง 
ลงทุนเพื่อบริษัท บริหารสินทรัพย์ หนี้สิน เพื่อสร้างผลตอบแทนสูงสุดแก่องค์กร 
หน่วยงานที่เริ่มทวีความสำคัญในธุรกิจหลักทรัพย์ ที่อยู่ในสายงานนี้ ได้แก่ 
Proprietary Trading หรือ การซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อบริษัท 

Investment Banking หรืองานด้าน วาณิชธนกิจ ได้แก่ 
งานเป็นที่ปรึกษาการเงิน (Financial Advisor)ในการระดมทุน 
ปรับโครงสร้างบริษัท เพื่อเข้าระดมทุน และจดทะเบียนในตลาดฯ 
การจัดจำหน่วยหุ้น (Underwriting) เป็นต้น 

Fund Management หรือ การจัดการกองทุน ซึ่งมีตั้งแต่ การเป็นผู้ขายหน่วยลงทุน 
ไปจนถึง ผู้จัดการกองทุน ซึ่งมีหน้าที่ในการ บริหารกองทุนให้เป็นไปตาม 
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ และสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้กับ ผู้ถือหน่วยลงทุน 

Securities Brokerage หรือ การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ 
ซึ่งทุกคนรู้จักกันดี ในนาม เจ้าหน้าที่การตลาด (MKT) ซึ่งมีหน้าที่ติดต่อกับลูกค้า 
ให้ข้อมูล และอำนวยความสะดวก อันที่จริง งาน MKT เป็นงานบริการ 
มากกว่างานวิเคราะห์ครับ แต่ MKT ที่ดีก็ต้องรู้จักลูกค้า และรู้ว่า ควร 
ให้ข้อมูลอะไรแก่ลูกค้า เช่น ลูกค้าเล่นหุ้นกลุ่มไหน ข่าวไหนเป็นข่าวที่ 
ลูกค้าควรสนใจ คือ ต้องสรุปใจความสำคัญเป็น 

.......................................................................................................... 

หลังบ้าน หรือ Back Office ได้แก่หน่วยงานที่ให้การสนับสนุน 
แก่ Front Office งานของ BO ไม่สร้างรายได้ แต่ สำคัญกับบริษัท 
สายงานที่น่าสนใจ ในธุรกิจนี้ ได้แก่ 

งาน บัญชี / การเงิน (F/A) ซึ่งจะมีความซับซ้อนกว่าการทำบัญชีธรรมดา 
เพราะต้องมีแบบรายงาน นอกเหนือจาก งบทางบัญชีต่างๆ ส่งให้ทางการ 
เช่น การแบ่งแยกทรัพย์สินของลูกค้า การบริหารสภาพคล่อง NCR 
(Net Capital Rule) ตามที่กฎหมายกำหนด (คล้ายๆ กับเงินสำรอง 
ตามกฎหมายของธนาคารพาณิชย์) 
รวมถึง การบริหารสภาพคล่อง และ ทำดีลกับทางธนาคาพาณิชย์ 


ปฎิบัติการหลักทรัพย์ (Operations) ถ้าบัญชี / การเงิน 
ดูแลการเงินของบริษัท และลูกค้า ฝ่ายปฎิบัติการหลักทรัพย์ 
ก็มีหน้าที่ ดูแลหุ้น และทรัพย์สินอื่นๆของบริษัท และลูกค้า 
รวมไปถึง การติดต่อกับลูกค้าเกี่ยวกับ การดำเนินการอื่นๆ เช่น 
ขอเพิ่มวงเงิน ติดตามทวงหนี้ การชำระราคา การเรียกหลักประกัน 
การบังคับขาย การล็อคบัญชีลูกค้า การเพิ่ม ลด วงเงิน ทบทวนข้อมูลลูกค้า 
เป็นต้น ถือว่า เป็นแม่บ้านตัวจริงของ บริษัทหลักทรัพย์ 

บริหารความเสี่ยง (Risk Management) หน่วยงานหลักในการวิเคราะห์ 
และทำการทดสอบสมมติฐาน หรือ Scenario Analysis ในเคสต่างๆ 
ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อบริษัทมีการทำธุรกรรมใดๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อบริษัท 
ฝ่ายนี้ ไม่สนใจกำไร แต่สนใจความเสี่ยง ซึ่งจะคานกันกับ Front Office 
เพราะ Front จะเห็นกำไรมาก่อน แต่โอกาสการทำกำไร จะมีโอกาสที่จะพลาด 
และเกิดผลเสียขึ้นด้วย สิ่งนั้นเรียกว่า ความเสี่ยง 

กำกับ และตรวจสอบ (Compliance and Internal Audit) 
หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับ และตรวจสอบตามชื่อ เพื่อให้บริษัทดำเนินงานได้ 
โดยไม่ไปทำผิดกฎหมาย ซึ่ง การแสวงหากำไรของบริษัท บางครั้งจะไป 
เอาเปรียบลูกค้า หรือ คู่ค้า คู่กรณี คู่เจรจา ต่างๆ ซึ่งเมื่อมันหลุดไปจาก 
กลยุทธ์ทางธุรกิจ ไปสู่การเอาเปรียบ และผิดกฎหมาย ฝ่ายนี้จะเข้ามาดูแล 
รวมถึงเป็นที่ปรึกษา ในการดำเนินธุรกิจในทุกๆ กรณีด้วย 

เป็นหน่วยงานอิสระ มีอำนาจตรวจสอบ และเข้าถึง ข้อมูลลับของบริษัท 
ในทุกระดับชั้น ขึ้นตรงกับ กรรมการตรวจสอบ ไม่ขึ้นกับ CEO 

วิเคราะห์หลักทรัพย์ (Research) จัดทำบทวิเคราะห์ หลักทรัพย์รายตัว 
วิเคราะห์สภาพแวดล้อม ปัจจัยเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ต่างประเทศ 
วิเคราะห์ด้านปัจจัยพื้นฐาน และ เทคนิค อบรม สัมมนา ให้ความรู้ 
เจ้าหน้าที่การตลาด และ ลูกค้า 

เป็นสายที่ต้องการ สหวิชาชีพ อย่างมาก เพราะต้องรู้จริงเกี่ยวกับ 
ภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรมต่างๆ ในตลาดหุ้น เช่น ภาคอสังหาฯ 
ภาคโทรคมนาคม สื่อ และการพิมพ์ เป็นต้น 





เป็นอย่างไรบ้างครับ...คงได้ความรู้กันเต็มๆเลย...ช้อบชอบบทความแนวนี้ ได้ประโยชน์มากมาย...ขอบคุณผู้ที่เขียนบทความชิ้นนี้ขึ้นมาครับ..^___^


โชคดีครับเพื่อนๆ 


Wizard Kid (พีร์)


14:15 น.