"7 เทคนิค ฟันกำไร หุ้นเดย์เทรด"

"7 เทคนิค ฟันกำไร หุ้นเดย์เทรด"
ติดตามความเคลื่อนไหวของหนังสือ "7 เทคนิค ฟันกำไร หุ้นเดย์เทรด" คลิ๊กโลดครับ

Tuesday, August 16, 2011

เมื่อตลาดหุ้นโดนถล่ม...เหตุไฉน...มันจึงรีบาวน์กลับมาแรงได้...กราฟมันฟ้องนิ!!

หายไปหลายวัน...เพราะพาป๊ากับม๊าไปเที่ยวฉลองวันแม่ครับ อิอิ สุขใจแล้ว มาเห็นตลาดหุ้นรีบาวน์แรงๆได้...ยิ่งสุขใจเข้าไปใหญ่...คนมีของข้ามอาทิตย์มานี่ ยิ้มแก้มปริกันเป็นทิวแถว...ถือหุ้นไม่กี่วัน ได้ค่าเที่ยวคืนหมด เหมือนพาครอบครัวไปเที่ยวฟรีชัดๆ แหะแหะ

มาดูกันครับว่า...ทำไมตลาดถึงต้องรีบาวน์ ในภาวะที่ทุกคนหวั่นเกรงว่าจะเป็นวิกฤติเศรษฐกิจรอบใหม่...ไม่ผิดครับ...กราฟยังเป็นขาลง...แต่ในขาลงย่อมมีการเด้งกลับที่มักจะทำกำไรให้กับชาวสวนเสมอมา..ขอแค่มีวินัยเทรด คุณก็ไม่ต้องกลัวติดดอยครับ ลุย!!

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (11 ส.ค. 54)

- ดูจากกราฟ Dow Jones ระยะ Day ผมสังเกตุว่าเจ้า Slow Stochastic และ RSI อยู่ในระดับที่ต่ำเตี้ยติดดิน...ก็เลยคิดว่า นี่อาจจะเป็นโอกาสที่หุ้นอาจจะรีบาวน์ได้ระยะสั้น โอกาสทำกำไรมาแว้ววว!!
- ก่อนอื่นเลย เช็คกราฟย้อนหลังก่อนครับว่า ในอดีตที่ผ่านมา เมื่อ Slow Stochastic กับ RSI ลงมาต่ำระดับนี้...หุ้นต่อจากนั้นมักจะเป็นอย่างไร โอกาสที่จะขึ้นหรือลง แบบไหนมีมากกว่ากัน..ไม่น่าเชื่อน่ะครับว่า มีโอกาสสูงมากๆที่หุ้นจะดีดตัวกลับได้ ส่วนจะดีดเพื่อเป็นขาขึ้น หรือแค่เด้งเพื่อลงต่อ อันนี้ก็ค่อยมาว่ากัน ก็จะแคร์ทำไม ในเมื่อเราเล็งแค่ทำกำไรระยะัสั้น หุหุ
- ต่อจากนั้นก็มาสังเกตเห็นว่าเกิด Bullish Divergence ในตัว RSI ที่ราคาหุ้นทำ lower low แต่ RSI ทำ higher low ครับ เป็นอาการที่บ่งชี้ว่า นักลงทุนเริ่มกลับมาซื้อมากขึ้น..โอกาสดีดกลับย่อมมีสูง
- ลองตีเส้นหลากหลายมาให้...เห็นชัดน่ะครับว่า Dow Jones มันเป็นขาลงตอนหลุด 12500 จุด อันนี้ผมลองวาดสามเหลี่ยมมาให้ดูกัน...ใครตีกราฟแ้้ล้วทำตามวินัย เชื่อมั่นในการอ่านกราฟ...คุณไม่ติดดอย!! ไม่ขาดทุนหนัก! แน่นอน!


แต่...ดูแค่กราฟ Dow Jones อย่างเดียว คงไม่ดีแ่น่...เอาให้ชัวร์ก็ต้องดูกราฟพี่ไทย SET สุดเจ๋ง ก่อนตัดสินใจว่าควรเข้าซื้อดีหรือไม่ครับ...

ผมเลือกดู SET ระยะ 120 นาที เพราะมันสั้นดี แหะแหะ

- สิ่งที่เห็นนี่ เหมือนกับ Dow Jones เลยครับ ทั้ง SST และ RSI ทำจุดต่ำสุด ผมก็เลยใช้วิธีเดียวกันกับกราฟ Dow Jones ผลสรุปคือ ต่ำมากชิมิ...ดีดตล๊อดดดด!! อิอิ
- RSI ทำ higher low เป็นขั้นบันได...MACD ตัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 แล้วเช่นเดียวกับ SST ครับ ส่วนแท่งเีทียนก็ทำทรงเป็นสามเหลี่ยมทองคำ...

เมื่อรวมเหตุผลทั้งหมดที่ว่ามา...โดยไม่ต้องดูข่าวใดๆ...โอกาสทำกำไรมีมากกว่าขาดทุน ถ้าคุณซื้อหุ้นเมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา...ถามว่าโอกาสผิดทางมีมั๊ย มีครับ.แต่จะกลัวทำไมถ้าคุณมีจุดคัทลอส...จะกี่ % หรือจะหลุดแนวรับที่คุณวางไว้ ก็แล้วแต่ชอบเลยครับ

ปัญหาต่อจากนี้คือ SET มีทั้ง gap บนเบ้อเริ่ม และ gap ล่างอีกเกือบ 20 จุด รออยู่ (ใครไม่เชื่อก็แล้วแ่ต่น่ะครับ แต่รอบนี้ SET ลงมาปิด gap เกลี้ยงเลย หุหุ ปิดเสร็จปุ๊บ มันดีดซะงั้น...มหัศจรรย์แห่งกราฟมีจริง!)

ต่อจากนี้ คุณกำไรกันหมด สำหรับคนที่เพิ่งช้อนซื้อมา...จุดขาย คงต้องอยู่ที่คุณพอใจครับ ตลาดช่วงนี้  สัญชาตญาณและประสบการณ์ จะช่วยคุณได้เยอะ การพลิกแพลงลูกเล่นต่างๆ มีเท่าไหร่นำมาประยุกต์ใช้ ให้ดีๆ กำไรงามๆแน่นอนครับ

โชคดีคร้าบบบ

Wizard Kid
2:09 น.
16 ส.ค. 54 


Monday, August 1, 2011

การตั้งจุด Stop loss และ Trailing stop โดยไม่ใช้กราฟ...ใช้แค่ใจและวินัยเทรด..ก็พอ!!


ห่างหายไปพอสมควรสำหรับบทความที่เกี่ยวกับการลงทุนครับ...วันนี้ก็จัดให้ซะหน่อย เป็นเรื่องเกี่ยวกับ การเทรดแบบมีจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) และการเลื่อนจุดตัดขาดทุน (Trailing Stop) ครับ วิธีที่ผมจะอธิบายนี่ไม่เกี่ยวกับกราฟเลยน่ะครับ ใช้แค่วินัยเทรดและความเสี่ยงในการเทรดต่อครั้งที่คุณรับได้ ก็เท่านั้นเอง

...พร้อมแล้วชิมิ!! งั้นไปลุยกัน!!!...

จากประสบการณ์เทรดอันน้อยนิดมหาศาล (สรุปว่าน้อยหรือมากหว่า ฮ๋าๆๆ) ผมได้ข้อสรุปอย่างนึงครับว่า...

นักลงทุนแทบทุกคนไม่มีปัญหา...เวลาซื้อ
แต่มักจะตายน้ำตื้น...เวลาขาย...หรือ...ตัดขาดทุน

จริงอยู่ครับ...ตลาด ณ จุดนี้ (SET อยู่ที่ประมาณ 1130 – 1150 จุด) เป็นตลาดขาขึ้นในภาพใหญ่ หลายๆคนก็อาจจะพูดว่า...ซื้อหุ้นตัวไหนก็ได้ ถ้ามันลงมาหลุดราคาต้นทุนลงไปซัก 10 – 20%...เราก็ไม่ต้องขาย ขายทำไม ถือไปเถอะ เดี๋ยวมันก็ขึ้นกลับมาใหม่...

ถูกต้องครับ...มันขึ้นอยู่แล้ว..เพราะมันคือตลาดขาขึ้น
!!

แต่..
!! ขอเตือนเลยครับ...ยามที่ตลาดขาลงมาเยือน...ถ้าคุณไม่ขาย ดื้อถือไปเรื่อยๆ...การันตีได้ว่า...คุณได้ถือหุ้น เฝ้าหุ้น เป็นปีๆแน่นอน...เผลอๆเจ๊งหมดตัว หุ้นไม่ขึ้นมาอีกเลยก็เป็นไปได้
ดังนั้นแล้ว..ไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่อย่างใด ที่เราจะควรมีความรู้เรื่องการตัดขาดทุนและการเลื่อนจุดตัดขาดทุน...ต่อให้คุณไม่มีความรู้เรื่องกราฟเทคนิค เทคโน อาชีวะ ก็ตามที...

...คุณก็ตัดขาดทุน...หรือสามารถ
Let Profit Run ได้อย่างไม่ต้องกังวลใดๆ...
วิธีนี้...ผมการันตีครับว่า...เมื่อคุณเลือกหุ้นที่ชอบแล้ว...คุณเคาะซื้อปุ๊บ...คุณไม่ต้องมานั่งเฝ้าหน้าจอแทบทุกนาทีเลยครับ...เพราะอะไร อ่านจบคุณจะรู้เอง...ถ้าไม่รู้...อ่านใหม่!! อิอิ
..ขออธิบายโดยใช้เหตุการณ์สมมติน่ะครับ เพื่อความง่ายในการเห็นภาพ..

สมมติว่านักลงทุน
P ได้ซื้อหุ้น X ที่ราคา 10 บาท โดยที่นักลงทุน P สามารถรับความเสี่ยงในการขาดทุนในการลงทุนในหุ้น X ได้ที่ 10 เปอร์เซนต์เท่านั้น...ก็คือ 9 บาท...ต่ำกว่านี้..ตัดขาดทุน!!

ต่อมา...ราคาหุ้น
X ได้ร่วงมาอยู่ที่ 9.20 บาท...ถามว่านักลงทุน P ต้องทำอย่างไร?

เครียดประสาทแด๊ก?...นอยด์โทรหามาร์?...ป๋าขาช่วยหนูที?...555
ตอบแทนเลยครับว่า...นักลงทุน P จะไม่เครียด ชิลๆ สบายๆ เพราะอะไรนั่นหรือครับ...ก็เพราะ

ราคายังไม่ถึงจุด Stop Loss ที่ตั้งไว้นั่นเอง!!

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้น จะมี 2 กรณีทั้งแบบ Best Case และ Worst Case น่ะครับ


          ราคาหุ้น X ร่วงไปถึง 9 บาทหรือหลุด 9 บาท...ในกรณีนี้...นักลงทุน P จะยอม Stop Loss ทันที โดยที่ไม่สนใจว่า หุ้นอาจจะรีบาวน์หรือดีดกลับได้ในอนาคต...เพราะวินัยการลงทุนของนักลงทุน P คือ ถ้าถึงจุดตัด ก็ต้องตัด!! ไม่ต้องเสียดายครับ หุหุ

โอเคว่า...ราคาอาจจะดีดกลับทันทีก็ได้...อันนี้แล้วสำหรับเทรดเดอร์ ถือว่าเป็นเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ไม่ต้องซีเรียสครับ

แต่จะซีเรียสและเซ็งที่สุดถ้าไม่ยอมทำตามวินัยตัดขาดทุน...เพราะราคาหุ้นอาจจะร่วงต่อจาก 9 บาท ไปสู่ 5 บาท หรือต่ำกว่านั้นก็ได้...ใครจะไปรู้!!

ไม่มีใครรู้อนาคตหรอกครับ...แต่อย่างน้อย
หากคุณมีวินัยเทรด...คุณก็กุมอนาคตตัวเองไว้

Best Case
          ราคาหุ้นหยุดนิ่งสร้างฐานที่ 9.20 บาทมาสักระยะ จากนั้นก็เจอแรงซื้อกลับมหาศาล จนราคาทะลุ 10 บาท ไปยืนที่ระดับ 11 บาท...ณ จุดนี้นักลงทุน P ก็มี unrealized profit อยู่ที่ 1 บาทหรือกำไร 10% นั่นเอง...ว้าวว!!

แต่ช้าก่อน
!!...ถ้าตามสูตรลงทุนแนวนี้...นักลงทุน P จะไม่ขายครับ...แต่จะเลื่อนจุดตัดขาดทุนขึ้นมาทันที โดยคำนวนจุด Stop Loss ใหม่จาก

ราคาปัจจุบัน - (ราคาปัจจุบัน X Stop Loss ที่นักลงทุนรับได้)

ดังนั้น จุด Stop Loss ใหม่ของนักลงทุน P คือ 11 บาท – (11 บาท X 10%) = 9.9 บาท!!
สังเกตอะไรมั๊ยครับว่า...ถ้าเกิดราคาหุ้นร่วงมาที่ 9.9 บาท อีกครั้ง นักลงทุน P ขาดทุนแค่ 1% เท่านั้นเอง...สิ่งนี้แหล่ะครับคือ Trailing Stop!!

แล้วเจ้า Trailing Stop นี่ มีประโยชน์อย่างไร...สำหรับผมแล้ว ผมมองว่าถ้าหุ้นที่เราถืออยู่เป็นหุ้นดีเด่น สุโค่ย! คุณก็จะสามารถเกาะขบวนรถด่วนเหาะเวหาได้ยาวนานที่สุดครับ

เช่น...ต่อมาราคาหุ้น X ดีดจาก 11 บาท ไปถึง 15 บาท โดยระหว่างทางก็มีการย่อบ้างอะไรบ้าง แต่นักลงทุน P ก็ยังไม่ขาย เพราะจุด Trailing Stop ของนักลงทุน P อยู่ที่ 10% ของราคาปัจจุบัน
เพื่อให้ง่ายต่อการเห็นภาพ ผมเลยทำตารางง่ายๆมาให้ดูกันครับ

Stop Loss (Trailing Stop)
10%


จุดขายตัดขาดทุน (ทำกำไร)
P/L (%)
ราคาซื้อ
10
9
-10%




ราคาปัจจุบัน
11
9.9
-1%

12
10.8
8%
13
11.7
17%
14
12.6
26%
15
13.5
35%
20
18
80%

เห็นแล้วใช่มั๊ยครับว่า ถ้าคุณมีวินัยเทรดที่ดีเยี่ยม คุณมีจุด Stop Loss และ Trailing Stop ที่ดีแล้วนั้น คุณจะมี Limit Loss but unlimited gain หรือคุณจะกำหนดเงินที่คุณมีโอกาสเสียได้ แต่คุณก็จะมีโอกาสทำเงินได้มหาศาลเช่นกันครับ
ที่สำคัญคือ...

...จากจุด Trailing Stop ที่มีไว้เลื่อนจุดตัดขาดทุน...
...ก็จะกลายเป็นจุด Taking Profit ทำกำไรในทันที...

...แหล่มเลย...!!

ส่วนที่ผมกล่าวมาในบทนี้..นักลงทุนหลายๆท่านอาจจะนำไปประยุกต์ได้หลากหลายครับ...จุด Stop Loss และ Trailing Stop นั้น จะเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่นักลงทุนแต่ละท่านจะรับได้...
ถ้าคุณรับความเสี่ยงได้มาก...คุณก็เพิ่มเปอร์เซ็นต์ Stop Loss เพื่อที่ในกรณีที่คุณซื้อหุ้นถูกตัว...จุด Trailing Stop ของคุณก็จะมากขึ้นด้วย โอกาสที่คุณจะทำกำไรมหาศาลก็มีมากเช่นกัน...ถ้าหุ้นตัวนั้นวิ่งแรง วิ่งฉิว...เผลอๆได้กำไรมากกว่า 100% ก็เป็นได้...สาธุๆๆๆ อิอิ

ถ้าคุณรับความเสี่ยงได้น้อย...ก็ตั้งจุด Stop Loss น้อยๆ โอกาสขาดทุนหนักๆ ก็จะไม่มีครับ ส่วนโอกาสทำกำไร ก็คงต้องแล้วแต่สไตล์การวิ่งของหุ้นตัวนั้นๆครับ

...เห็นมั๊ยครับ...วิธีนี้ผมว่าเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่ถนัดกราฟน่ะครับ...ใช้ได้ง่าย ทำได้จริง แต่สุดท้ายแล้ว...อยู่ที่ว่า...คุณจะคุมอารมณ์ตัวเองได้หรือไม่ ในยามที่ราคาหุ้นวิ่งผันผวน แต่ยังไม่แตะจุดที่คุณต้อง Stop Loss หรือ Trailing Stop ไว้ครับ

ราตรีสวัสดิ๋คร้าบบ ^_^

Wizard Kid (พีร์ บุญชนะวิวัฒน์)


22:11 น.
1 สิงหาคม 2554