"7 เทคนิค ฟันกำไร หุ้นเดย์เทรด"

"7 เทคนิค ฟันกำไร หุ้นเดย์เทรด"
ติดตามความเคลื่อนไหวของหนังสือ "7 เทคนิค ฟันกำไร หุ้นเดย์เทรด" คลิ๊กโลดครับ

Monday, April 11, 2011

สิ่งดีๆ ที่เรียกว่า “การให้” (One Night Stand Discussion # 41)

สวัสดีครับเพื่อนๆนักลงทุนทุกท่าน...ห่างหายจากงานเขียนไปนานพอควร ก็เลยคิดอยู่นานว่าจะเขียนเรื่องอะไรดี ให้สมกับที่เป็นบทความแรกของปี 2554


วันนี้ก็เลยขอนอกเรื่องการลงทุน ปลีกวิเวกจากกราฟหุ้น มาเขียนเกี่ยวกับอุดมการณ์ที่ผมมักจะย้ำและพูดเสมอ ไม่ว่าจะทั้งในหนังสือ “7 เทคนิค ฟันกำไร หุ้นเดย์เทรดไม่ว่าจะในทุกงานสัมมนาของ Stock2Morrow รวมไปถึงในหน้า fan page ของผมเองว่า...

สังคมที่ดีนั้น จะดีได้ ต้องขับเคลื่อนด้วยสิ่งที่เรียกว่า...การให้...

ถูกต้องแล้วครับ การให้ หรือ GIVE ที่เป็นสิ่งที่จะก่อให้เกิดสุข ทั้งผู้ให้และผู้รับ คือการให้ที่มีคุณค่า...โดย GIVE นั้น มีความหมายดีๆแฝงอยู่ในคำมันน่ะครับ

G = Gladly - ให้ด้วยใจยินดี
I = Impartially - ให้อย่างไม่ลำเอียง
V = Voluntarily – ให้ด้วยความสมัครใจ
E = Expecting Nothing Back – ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

เห็นมั๊ยครับ แค่คำสั้นๆ คำเดียวนั้น กลับแฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้งมากมาย โดยที่เราไม่คาดคิดมาก่อน...ดังนั้นแล้ว อย่ามองข้ามพลังของคำง่ายๆว่า “GIVE” หรือ การให้น่ะครับ...

...เพราะพลังของการให้ ทำให้ผู้รับและผู้ให้มีความสุขแบบสุดๆไปเลยครับ...

คนส่วนใหญ่มักจะคิดกว่า การรับ คือสิ่งที่ดีกว่า การให้”…อาจจะใช่ถ้ามองในแง่ของวัตถุสิ่งของ แต่ถ้าเราลองมองให้รอบด้าน จะเห็นได้ชัดเจนกว่าว่า การให้เป็นสิ่งที่ผู้ให้ได้ประโยชน์มากกว่า การรับ เพราะสิ่งที่ผู้ให้จะได้รับผลตอบแทนทันทีแบบฉับพลันก็คือ...

...ความสุขใจ...

...สุขใจจากการให้ จะเป็นความสุขแท้ ที่จะอยู่กับเราตลอดไป...

ผมอยากให้ทุกคนได้คิดอีกแง่ว่า การให้ก็คือใบเบิกทางไปสู่ การรับ น่ะ...เพราะถ้าตลอดชีวิตนี้ คุณไม่เคยให้อะไรใครเลย เป็นได้แค่เพียงผู้รับอย่างเดียว เราก็คงจะได้รับธรรมดาในชีวิต ที่ไม่แตกต่างจากคนทั่วไป...

...แต่.... ถ้าเราลองมาเป็นผู้ให้ ผมกล้าการันตี ฟันธงและคอนเฟิร์มเลยว่า ไม่ก็ช้าก็เร็ว ผลของการให้ของตัวคุณเองนั้น  จะเป็นใบเบิกทางนำพาชีวิตของคุณไปสู่การรับอย่างแน่นอน

...การให้ที่สมบูรณ์แบบ ก็คือการให้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน เหมือนที่เหล่านักขายมือฉมัง มักจะนิยามกันว่า การขายที่เก่งที่สุดคือ การขายแบบไม่ขาย”…
เช่นเดียวกันว่า

การให้ดีที่ดีที่สุด คือ การให้โดยไม่หวังผลตอบแทน

มีกลุ่มคนอีกกลุ่มนึงที่ผมคิดว่า เหมาะอย่างยิ่งที่ควรจะเป็น ผู้ให้ครับ...ก็คือ นักลงทุน”…
โดยเฉพาะผู้ที่ประสบความสำเร็จการลงทุนในตลาดหุ้นหรือตลาดเงินอื่นๆ...

...เพราะอะไร?......เพราะในตลาดทุนแห่งนี้นั้น มีหลายต่อหลายคนที่..

...แค่กระพริบตาไม่กี่ที ก็หาเงินได้แล้ว..
...แค่กระดิกนิ้วไม่กี่ครั้ง ก็ทำเงินเป็นกอบเป็นกำ...

โดยที่เค้าเหล่านี้ อาจจะลืมไปว่า การหาเงิน ที่เขาเหล่านั้นคิดว่าง่ายดาย...กลับเป็นสิ่งที่ยากเย็นแสนสาหัส สำหรับหลายๆคนที่...

...ต้องเสียหยดน้ำตาไม่รู้กี่ครั้ง เพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว...
...ต้องตรากตรำเป็นร้อยครั้งพันครั้ง เพื่อหาเงินประทังชีวิต...

หลายๆคน อาจจะลืมจุดๆนี้ไป...เพราะมัวแต่ลุ่มหลงกับเงินที่หามาโดยง่าย โดยหารู้ไม่ว่า ตัวเองนั้นเห็นแก่ตัวแค่ไหน ต่อสังคมที่อาศัยอยู่...ไม่คิดว่าการให้ต่อๆไปคือสิ่งที่ดีงาม..ชอบเป็นผู้รับอยู่ฝั่งเดียว...รับเงิน รับทรัพย์ และใช้มันอย่างสิ้นเปลือง ไร้ค่า โดยใช่เหตุ...

...จะเป็นคนรวย คนมีเงินที่มีคุณค่าต่อสังคม เป็นที่จดจำนั้น ต้อง รวยการให้ ด้วยครับถึงจะเป็นคนจริง คนดีแท้ต่อทั้งตัวเอง ผู้อื่นและสังคมที่อาศัยอยู่...

อย่าให้คนอื่นมาว่าเราได้ว่า มีเงิน แต่ไร้สมอง”…ใครโดนว่าแบบนี้ เสียชาติเกิดเอาได้น่ะครับ..

...ผมเคยพูด เคยเขียนไปหลายหนแล้วว่า ถ้ามีโอกาส มีเวลาว่าง ก็ควรเอากำไรจากการลงทุน การเล่นหุ้น แค่ 1-3% ของเงินกำไรนั้น ไปทำบุญกัน...

โดยเฉพาะ... การทำบุญกับคน หรือที่ผมชอบเรียกอีกอย่างว่า

การลงทุนกับคน

อาจจะฟังดูแปลกไปหน่อย แต่มันได้ผลจริงๆครับ อาจจะไม่ใช่ในระยะสั้นๆ แต่ในระยะยาวแล้ว ผู้ที่รับผลจากการลงทุนกับคนในแบบของผมนั้น...ไม่ใช่ตัวผมเอง ไม่ใช่ครอบครัวผมเอง ไม่ใช่ใครอื่นใด...แต่เป็น สังคมและประเทศชาตินั่นเองครับ...

วันนี้ผมได้เริ่มลงทุนกับคนแล้ว...ด้วยการขอความร่วมมือจากอาจารย์ที่ผมเคารพนับถือตั้งแต่สมัยผมเรียนอยู่ชั้นประถมที่โรงเรียนอนุบาลกระบี่...ให้อาจารย์ได้ช่วยคัดเลือกเด็กมา 3 คน...โดยให้เงื่อนไขง่ายๆ 3 ข้อที่ว่า...

1. เรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ เด็กเหล่านี้แหล่ะครับ ที่จะเป็นกำลังหลักของสังคม เพราะเค้ารับรู้ถึงความยากลำบากมาก่อน ถ้าเด็กเหล่านี้ได้เป็นผู้นำประเทศหรือชุมชนที่อาศัยอยู่...รับรองว่า ยากยิ่งนักที่จะเป็นแบบนักการเมืองในปัจจุบัน...

2. มีความกตัญญู รู้คุณ เด็กที่รู้คุณพ่อแม่ ครูบาอาจารย์และผู้ใหญ่ตั้งแต่เล็กนั้น เวลาจะทำอะไร ก็มักจะคิดเสมอว่า ทำไปแล้ว จะมีผลเช่นไรต่อผู้มีพระคุณ...ถ้าคิดว่าดี ทำแน่นอน..แต่ถ้าคิดว่าไม่...เด็กเหล่านี้ก็ไม่กล้าคิดที่จะทำแน่นอน

3. ทำกิจกรรมของโรงเรียน อันนี้เป็นเพราะผมเชื่อว่าจะมีดีที่ IQ อย่างเดียวไม่ได้ ต้องมี EQ ที่ดีด้วยครับ โตไปจะได้ไม่เห็นแก่ตัว ไม่มองอะไรด้านเดียวครับ

....อาจจะฟังดูเพ้อเจ้อ...แต่ผมก็ยืนยันว่า ต้องการช่วยเหลือเด็กที่มีคุณสมบัติเหล่านี้  โดยเฉพาะกับเด็กที่เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์...

สุดท้ายแล้ว อาจารย์ก็หามาให้ได้ 3 คนครับ เรียนในระดับชั้นที่ต่างๆกันไป มีทั้งประถม 2 4 และ 5 ครับ
น้องๆเหล่านี้ ได้ทุนการศึกษาคนละ 5,000 บาท ทั้งหมดก็ 15,000 บาท อาจจะดูเป็นจำนวนเงินที่ไม่มากมายนัก... แต่ผมว่า ความสุข ที่ได้รับนั้น มันมากกว่าเงินที่ผมได้ให้ไปแบบประเมินค่ามิได้ครับ...^___^


หนึ่งในสามคนนี้ มีคนนึงที่ผมคิดว่า น่าสงสารมากๆ ถึงมากที่สุดครับ...น้องเค้ากำพร้าแม่ตั้งแต่เล็ก คุณพ่อมีอาชีพเป็นมอเตอร์ไซต์รับจ้าง...ต้องขับรถประมาณ 40-50 นาทีทุกวันเพื่อมาส่งลูกเรียน...ด้วยมอเตอร์ไซต์น่ะครับ ไม่ใช่รถเก๋งหรูๆ...แถมเป็นในต่างจังหวัดที่รถโล่งๆด้วย..คิดดูแล้วกันว่ามันไกลแค่ไหน...เดือนนึงได้เงินมาไม่ถึง 5 พันบาทซะด้วยซ้ำ...ที่น่าเห็นใจที่สุดก็คือ น้องเค้าเป็นโรคโลหิตจางด้วย ยังดีที่ได้รับการรักษาด้วยบัตรทอง เลยไม่โดนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดไปมากกว่านี้... แล้วที่ผมอึ้งไปเลยก็คือ แม้ว่าน้องเค้าจะไม่ได้เรียนพิเศษใดๆ น้องเค้าเรียนได้เกรดเฉลี่ย 4.00 น่ะครับ แถมเก่งทั้งเลขและภาษาด้วย...ไม่ให้สนับสนุนเด็กแบบนี้ ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว...

เห็นมั๊ยครับว่า...บนโลกใบนี้ ยังมีคนอีกมากมายที่ลำบากกว่าเราเยอะ ดังนั้นแล้ว ผมอยากจะเชิญชวนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนเลยว่า

ถ้าคุณมีทุนทรัพย์...ก็จงทำบุญกับสิ่งที่คุณศรัทธาและรัก
ถ้าคุณอยากสร้างคน...ก็จงลงทุนกับคนที่คุณเชื่อมั่นว่า เค้าจะเติบใหญ่เป็นคนดีและสร้างสรรค์สิ่งดีๆเพื่อสังคมได้ในภายหน้า

เกือบลืมบอกไปว่า...ผมไม่ได้ให้ทุนแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว...เพราะถ้าน้องๆเหล่านี้ยังรักษาผลการเรียนและเป็นเด็กดีเช่นนี้เรื่อยๆ ผมก็จะให้ทุนการศึกษาไปเรื่อยๆ ทุกเทอมครับ...แล้วมาดูกันว่าเด็กเหล่านี้ จะสร้างสรรค์อะไรดีๆเพื่อสังคมได้หรือไม่ครับ อย่างน้อยผมก็ได้ปลูกฝังความคิดให้น้องๆไปแล้วว่า...คนคิดดี ทำดี ยังไงก็ไม่ถูกทอดทิ้งอย่างแน่นอน...ช้าหรือเร็วก็แค่นั้นเอง..

นี่อาจจะเป็นบทความที่ยาวมากๆ บทความนึงตั้งแต่ผมเคยเขียนมา...แต่มันเป็นบทความที่ผมมีความสุขที่ได้เขียนลงไปมากที่สุด มากกว่าทุกๆบทความที่ผมเคยเขียนเลยครับ...
เพราะสิ่งที่ผมฝันไว้...ผมได้ทำมันแล้ว...

...ไม่ต้องรอ...ให้รวยล้นฟ้า แล้วคุณถึงจะเริ่มทำหรอกครับ
...ไม่ต้องรอ...ให้ใครมาชื่นชม แล้วทำมันตามกระแส
...ไม่ต้องรอ...ให้ใครมาขอร้อง แล้วค่อยทำ
...เริ่มวันนี้...และขอแค่มีศรัทธากับสิ่งที่ทำ...
...แค่นี้ก็สุขใจแล้วครับ...ใครไม่สุขด้วย ก็ไม่เป็นไร...แค่ ใจ เรามีแต่ ความสุขก็เพียงพอ...

...มาร่วมกันเดินสู่ สังคมแห่งการให้ กันเถอะครับ...จะรูปแบบใดก็ได้ ขอให้เป็นการให้ ที่ผู้รับจะได้ประโยชน์ในวันนี้ และสังคมจะได้รับประโยชน์สูงสุดในวันข้างหน้าครับ...

ผมเริ่มแล้ว...แล้วคุณหล่ะ..เริ่มหรือยัง?

Wizard Kid  (พีร์ บุญชนะวิวัฒน์)
       3:33 น.  11/04/11

Sunday, April 3, 2011

Update กราฟ SET ระยะ Day กันครับ...ขึ้นแรงได้ใจแบบนี้ จะไปต่อหรือมีปรับฐาน?

สวัสดีครับ วันนี้ขอ update กราฟ แค่กราฟระยะ Day น่ะครับ...จะได้เห็น Trend ตลาดภาพใหญ่กันว่าเป็นอย่างไร


กราฟที่เห็น...ก็ชัดเจนน่ะครับ...ขึ้นทะลุปล้อง ไปเรื่อยๆ ไม่เนิบ ไม่ช้าด้วย...เพราะมันแรงได้ใจ!! ฝรั่งบุกแหลกหลาญจริงๆครับ เหอๆๆ...

ตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สามารถทะลุและปิดจนดัชนีทำ New High ของรอบนี้ได้ที่ 1064.35 จุดครับ...

ถามว่าไปต่อหรือไม่...ถ้า Trend แบบนี้ ขึ้นอยู่แล้วครับ...แต่ยังไงสิ่งที่มีขึ้น ก็ย่อมมีลงครับ หุ้นมีก็เช่นกัน มีขึ้นก็มีลงครับ... ยังไงคนเราก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ครับ เพื่อความไม่ประมาท อิอิ

ขาขึ้นนี่...แน่นอนว่ารอบนี้ เมื่อ SET ทะลุ 1050 จุดได้ ก็มองเป้าหมายที่ 1100 จุด กันตามจิตวิทยาครับ...

ส่วนแนวรับหล่ะ? ผมลองลากเส้น support line ตามความคิดผม (ใครจะลากต่างยังไง ก็ค่อยว่ากันเด้อครับเด้อ) จะได้แนวรับแรกเบาเบาที่ 1050 ครับ....รับต่อไปก็ประมาณ 1040 ส่วนรับสุดท้ายของขาขึ้นรอบนี้ ก็คงประมาณที่ 1020 ครับ เลขกลมๆทั้งนั้นเลย เหอๆๆ....

แล้วถ้ามาดู indy ต่างๆหล่ะ? ขาขึ้นจริงๆครับ.... แต่ด้วยการที่ดีดแรงเป็นม้าดีดกะโหลกเนี่ยะ ทำให้แท่งเทียนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดีดทะลุ Bollinger Top ไปเกินครึ่งแท่ง...อันตรายนิดๆน่ะครับ ว่าต่อจากนี้จะมีแรงขายที่พร้อมจะถล่ม SET ได้ทุกเมื่อ....อันนี้ต้องถามใจพี่หรั่งอีกทีว่าจะซื้อแหลกหลาญต่อไปหรือไม่...

Slow Stochastic --> ก็อยู่ชายแดน Overbought ครับ เหนือระดับ 90% ซึ่งสองกรณีที่จะเกิดขึ้นก็คือ..
1.) Slow Stochastic เลี้ยงเหนือ 90% ไปเรื่อยๆ จนทำให้ SET ไปต่อได้
2.) Slow Stochastic ตัดลงต่ำกว่า 80% พร้อมกับแรงเทขายทำให้ SET ร่วงได้

...อันไหนจะเกิด...ไม่รู้จริงๆครับ เตรียมพร้อมไว้ ไม่เสียหายนี่นา แหะแหะ

MACD --> ทำ New High พร้อมกับ SET ครับ...เป็นการคอนเฟิร์มขาขึ้นเต็มๆ

EMA --> ไม่มีทีท่าว่าจะตัดลงในระยะเวลาอันใกล้นี้ครับ สบายๆ

สรุปคือ... ขาขึ้นครับ...พร้อมกับมีแนวรับที่ให้ไป...แค่นี้ก็สบายๆ ถ้าหุ้นขึ้น ก็ let profit run แต่ถ้าหุ้นลงแรง เราก็ไม่ติดดอยครับ

โชคดีครับ

Wizard Kid (พีร์ บุญชนะวิวัฒน์)