วันนี้มาดูบทความดีๆ มีประโยชน์กันน่ะครับ..แนะนำให้อ่านแล้วพิมพ์ออกมาติดที่โต๊ะทำงาน หัวเตียง หรือตรงไหนก็ได้ ที่สะดวกต่อการอ่านน่ะครับ ^___^
วันเสาร์สบายๆวันนี้มาคุยกันเรื่อง "หัวใจเศรษฐี" กันสักวันนะครับ ในความฝันลึกๆของเราทุกคน ต่างก็อยากเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐีกันทั้งนั้น แต่จะทำอย่างไรจึงจะร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีได้นี่สิเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เรื่องนี้ ท่าน ว.วชิรเมธี ได้เขียนไว้ในหนังสือ "เคล็ดลับหัวใจเศรษฐี" โดยตั้งราคาขายแค่เล่มละ 59 บาทเท่านั้นเอง
จะร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี ได้ ท่าน ว. บอกว่า ต้องมี "หัวใจเศรษฐี"
หัวใจเศรษฐี ก็คือ หลักธรรมที่นำไปสู่จุดหมายนั่นเอง จะทำอะไรก็สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็น นักเรียน นักศึกษา พ่อค้าแม่ค้า พนักงานบริษัท นักธุรกิจ นักการเมือง ถ้านำหัวใจเศรษฐีนี้ไปปรับใช้กับชีวิตก็รับประกันได้ถึงความสำเร็จ
หัวใจ เศรษฐีมีอยู่ 4 ประการ คือ
1. อุ มาจาก อุฏฐานสัมปทา แปลว่า ขยันหา
2. อา มาจาก อารักขสัมปทา แปลว่า รักษาดี
3. กะ มาจาก กัลยาณมิตตตา แปลว่า มีกัลยาณมิตร
4. สะ มาจาก สมชีวิตา แปลว่า ใช้ชีวิตพอเพียง
ที นี้ก็มาดูทีละข้อว่าจะต้องทำอย่างไร
อุ คือ ขยันหา หมายความว่า อย่าเกียจคร้าน เมื่อตื่นขึ้นมาก็ต้องเดินไปข้างหน้าทันที เงินเป็นของกลาง ใครเดินเข้าไปหาก็เป็นของคนนั้น เงินไม่ได้ถูกผูกขาดไว้เป็นสมบัติของคนรวย เงินถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นสมบัติของคนทั้งโลก ใครขยันมากก็ได้มาก ใครขยันน้อยก็ได้น้อย ใครไม่ขยันเลยก็ไม่ได้เลย
เงินชอบคนขยัน ถ้าเห็นใครขยันก็จะกระโดดไปอยู่ด้วย แต่ถ้าคนขี้เกียจ เขาก็ไม่อยากอยู่ด้วย เงินก็จะกระเด็นหนีไปหมด
อา คือ รักษาดี หมายความว่า เงินเข้ามือซ้าย มือขวาต้องเก็บ เงินเข้ามือขวา มือซ้ายต้องเก็บ ไม่ใช่เงินเข้ามาทางซ้าย ปล่อยให้ไหลไปทางขวา เงินเข้ามาทางขวา ปล่อยให้ไหลออกไปทางซ้าย อย่างนี้ไม่มีทางรวยแน่นอน เราต้องรู้จักเก็บ เก็บรักษาให้ดี
พระพุทธองค์ สอนวิธีรักษาเงินไว้ว่า เมื่อทำมาหากินโดยชอบแล้ว ได้เงินมาก็ต้องแบ่งเป็นส่วนต่างๆดังนี้
1. เก็บเป็นเงินสำรองคงคลังไว้ก้อนหนึ่ง เผื่อเจ็บไข้ขึ้นมาก็ไปเบิกใช้รักษาตัว คนมีเงินสำรองคงคลังเยอะๆ สุขภาพจิตจะดีเป็นพิเศษ คนที่มีเงินเยอะๆจะหัวเราะเสียงดัง เวลาไปวัดก็นั่งแถวหน้า ไม่กลัวซองผ้าป่าเลย
2. แบ่งเงินมาใช้กินด้วย เงินเป็นสิ่งสมมุติ ชีวิตมนุษย์เป็นของจริง เงินจะมีค่าต่อเมื่อนำมาใช้ เงินที่ยังไม่ถูกนำมาใช้ ยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์ ของเงิน อย่าเก็บไว้จนเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ คนอื่นก็ไม่ได้กิน ตัวเองก็ไม่ได้กิน
3. เอาเงินมาต่อเงิน คือ ให้รู้จักทำธุรกิจนั่นเอง แต่อย่าให้เกินกำลัง เวลาเรามีเงินก็ให้ดูช่องทางว่า จะต่อยอดธุรกิจอะไรจากเงินตรงนี้
4. รู้จักเสียภาษี เพราะเราเกิดแผ่นดินนี้ อยู่แผ่นดินนี้ เราเป็นหนี้บุญคุณแผ่นดิน อย่าหลีกเลี่ยงการเสียภาษี รวยแล้วให้ ได้แล้วแบ่งปัน คือ สูตรของพระพุทธองค์ 5. บำรุงสมณชีพราหมณ์ ให้กินอิ่มนอนอุ่น มีกำลังใจออกไปเทศน์ไปทำบุญ เพื่อรักษาธรรมไว้ให้สังคม 6. อุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ
กะ คือ กัลยาณมิตตตา คือ รู้จักคบคนดีเป็นเพื่อน กัลยาณมิตร ก็คือ Connection นั่นเอง ขณะเดียวกันก็ต้องหลีกเลี่ยง บาปมิตร คือ เพื่อนเลว และ พันธมิตร คือ เพื่อนที่ค้าขายกับเราแต่ไม่จริงใจกับเรา
สะ คือ สมชีวิตา การใช้ชีวิตอย่างพอเพียง อย่าลงทุนเกินหน้าตัก จะลงทุนอะไรท่านสอนไว้ 3 คำ คือ มีเหตุผล พอประมาณ ทางสายกลาง
"ลม เปลี่ยนทิศ"
ไทยรัฐออนไลน์
27 พฤศจิกายน 2553
No comments:
Post a Comment