ฮ้ดช่า ฮัดเช้ย ฮัดชิ้ว!! สวัสดีครับ ช่วงนี้อากาศไม่ดีเลยครับ เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวแดดเปรี้ยง ระวังสุขภาพให้ดีน่ะครับ ^__^
มาต่อกันจากเมื่อวานดีกว่าครับ จะได้ไม่ขาดตอน หุหุ
ข้อสังเกตุข้อที่ 2 ข่าวลือแรง ระบือลั่น พวกจัญไร ทำกันได้!!
เคยสังเกตุกันบ้างมั๊ยครับ ว่าเวลามีข่าวลือแรงๆที่สามารถกระทบตลาดหุ้นได้นั้น ตลาดจะไม่มีการส่งสัญญาณเตือนมาก่อน หรืออาจจะมีบ้างเล็กน้อย แต่ก็ยากที่จะจับจุดได้ ตัวอย่างที่เห็นชัดแจ้งก็มีหลายเหตุการณ์ครับ ไม่ว่าจะเป็นวันปล่อยข่าวเรื่องมาบตาพุต ที่ทำให้ตลาดร่วงแบบกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ แล้วรีบาวน์กลับมา เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นในอีกวันทำการ, หรือที่ผมอยากจะยกให้เป็น The Worst Trading Cheat Activity in the History of Thailand Stock Market เลยครับ...คือ มันแย่ที่สุดเท่าที่เทรดเดอร์หรือคนเค้าจะทำกัน....
ใช่แล้วครับ...!! มันก็คือข่าวที่มี ไอ้โม่ง ปล่อย “ข่าวลือ” ทุบหุ้น!
หรือที่รู้กันในเหตุการณ์ที่เรียกว่า “14-15 ตุลา มหาวิปโยคตลาดหุ้น” ครับ
ไม่รู้จะเรียกว่าเป็น “บุญตา” หรือ “ทุกข์ใจ” ของผมกันแน่ครับ ที่ได้อยู่ร่วมเป็นสักขีพยานในเหตุการณ์ที่เรียกว่า “วันวิปโยคหุ้นไทย” วันหนึ่งในประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้ครับ
ในฐานะที่ผมทำงานอยู่ในตำแหน่งมาร์เก็ตติ้งมือทอง ณ ขณะนั้น (ตุลาคม 2552) ตลาดรอบโลกรวมถึงตลาดหุ้นไทยนั้น ไม่มีเหตุการณ์อะไรเลยที่จะส่งผลให้ตลาดทิ้งดิ่งได้เป็น สิบๆจุด หรือถึงขั้น “Circuit Breaker” ได้....แต่มันก็ได้เกิดขึ้นแล้วครับ T___T
ช่วงเช้าวันที่ 14 ต.ค. 2552 ตลาดช่วงเช้ายังปิดบวกประมาณ 4-5 จุดได้อย่างสวยงาม แต่ผมก็เริ่มตะหงิดใจนิดหน่อย ว่าตลาดหุ้นดีด แต่ก็มีแรงขายหรือ Short position ในฝั่งตลาด Future อย่างต่อเนื่อง..ก็คิดแค่ว่า คงเป็นพวกปิดทำกำไรซะมากกว่า (Short Close Position) จนกระทั่งช่วงพักเที่ยง เริ่มมีข่าวลือไม่สู้ดีหนัก ที่มีการบอกต่อๆกันในเหล่าโบรกเกอร์ ลูกค้าก็เริ่มโทรมาบอกว่า ได้ยินเค้าบอกว่า ได้ยินคนนั้นบอกมา ฯลฯ จนทำให้เริ่มวิตกจริตกันบ้างแล้ว เพราะถ้าหากข่าวลือเป็นจริง...พูดได้คำเดียวครับ “มีเท่าไหร่ขายให้หมด”!!
จนกระทั่งตลาดภาคบ่ายเปิด ก็เหมือนว่าข่าวลือนั้นจะเป็นแค่การอำกัน (แต่แรงเกินที่จะรับได้) เพราะตลาดก็มีการซื้อขายปกติ...
เฮ้ย!! อะไรว่ะ!! เกิดอะไรขึ้น %**&()*$#Y%#&^$*$ (เสียงเต็มห้องค้าเลยครับ)
ใช่แล้วครับ ทั้งหุ้นและ Future ทิ้งกระหน่ำแบบไม่มีญาติดี ไม่รอใคร ใครมีของถือว่าซวย ใครขายไม่ทัน ก็ได้แต่นั่งน้ำตาซึมแน่นอน ดัชนีทิ้งแบบตลบเดียวกว่า 8% หรือ ลดลงไปเกือบ 40 จุด....นี่แค่วันแรกน่ะครับ แค่นี้ก็ทำเอาลูกค้ารายใหญ่ของผมนอนกันไม่หลับ มีทั้งรวยแบบงงๆ และก็จนแบบงงๆ เลยนอนกันไม่หลับ ทำเอาผมนอนไม่่ค่อยหลับไปกับพวกเฮียๆด้วยเลย ฮือๆ
มาต่อวันที่ 15 ต.ค. กันเลยดีกว่าครับ มันก็คล้ายๆ“หนังม้วนเดิม” คือ เช้านิ่งๆ บ่ายเทขาย แต่ที่ร้ายกว่าคือ มันหนักยิ่งกว่าเดิม บ้ากันยิ่งกว่าเก่า ดัชนีทิ้งกันไปหนักที่สุดประมาณ 8.30%
.....ณ จุดนั้น ผมเชื่อว่านักลงทุนธรรมดาทั่วไป เทรดเดอร์ที่ไม่มีข้อมูลเบื้องลึกอะไรเลย ย่อมที่จะคิดอย่างเดียวคือ ตลาดแบบนี้ ต้องมีแต่พวกบ้า ซาดิสม์เท่านั้นที่กล้าช้อนหุ้นกลับ ทั้งๆที่กระแสข่าวลือยังกระหน่ำมาอย่างต่อเนื่อง...
แต่!!....จุดที่ทำให้ผมสงสัย ก็เกิดขึ้นครับ
จากที่ตลาดจะ -10% แล้วก็ Circuit Breaker ....กลับมีแรงซื้อมหาศาลเช่นกันที่เข้ามาพยุงหุ้นกลุ่มตัวใหญ่ๆ จนดัชนี้รีบาวน์มาประมาณ 30 กว่าจุดได้...แค่นี้ก็ไม่ธรรมดาแล้วใช่มั๊ยครับ
จนสุดท้าย ก็มีการออกมาปฏิเสธข่าวลือ โดยท่านผู้ทรงเกียรติทั้งหลายว่า อย่าตื่นตระหนก ข่าวลือนั้นไม่เป็นจริง...
ทำให้วันที่ 16 ต.ค. หุ้นไทยกลับมาเขียวได้พรึบพรั่บ เหมือนไม่เกิดอะไรขึ้นเลย โดยปิดบวกที่ประมาณ 20 กว่าจุด...มันง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ? ใครเป็นผู้ซื้อ ใครเป็นคนโง่ที่ขาย?
เหลือเชื่อน่ะครับ....ตั้งแต่วันที่ 14-16 ต.ค. นักลงทุนต่างชาติขาย 4,241.25 ล้านบาท กองทุนขาย 2,920.92 ล้านบาท รายย่อยซื้อ 7,162.17 ล้านบาท!!!!!
ทำไมรายย่อยซื้อหล่ะ? ทำไมฝรั่งต้องหนี? ยังเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้ครับ...ความจริงที่โดนปกปิด!! Sick Duck!! เซ็งเป็ดจริงๆ
ถ้าให้ผมตั้งข้อสงสัยก็คงจะเป็นอย่างที่ข่าวมาแฉกันทีหลังนั่นแหล่ะครับ ว่ามีกระบวนการของนักลงทุนรายใหญ่ๆ ที่เป็นกลุ่มฝรั่งหัวดำ!! (ไทย + เอเชียชาติอื่น) ที่รวมหัวกันวางแผนการชั่วร้ายครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งออเดอร์ Short สัญญา Future ล่วงหน้าประมาณ 2-3 วันก่อนหน้านั้นเป็นพันๆสัญญา หรือการ Short Sale ในหุ้นกลุ่มใหญ่ๆ หรือแม้กระทั่งการเตรียมเงินก้อนใหญ่เพื่อเข้ามาช้อนซื้อหุ้นยามที่ตลาด กำลัง panic!
เรื่องแบบนี้ ถ้าไม่ชั่ว ไม่โลภ ไม่หวังรวยทางลัด ทำไม่ได้หรอกครับ และถ้าถามว่าทำไมพวกตัวเฮียเหล่านี้ ถึงกล้าที่จะเล่นข่าวลือไม่เป็นมงคลเช่นนี้เพื่อเป็นช่องทางทำเงินก้อนโต ผมมาคิดดูแล้วมันก็มีเหตุผลง่ายๆครับ คือ
1)ข่าวลือที่เกิดขึ้น ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติ พวกสมรู้ร่วมคิดย่อมรู้อยู่แก่ตัวว่า ยังไงกลุ่มแรกที่ต้องทิ้งขายของ เพราะความตื่นตระหนกและกังวลนั้นก็คือ นักลงทุนต่างชาติครับ...เพราะมีการปล่อยข่าวอัปมงคลทางเว็บไซต์ข่าวหุ้นชื่อ ดังอย่าง BloomBerg ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 14 ต.ค. แล้วอย่างที่ทราบว่า ถ้าพี่หรั่งตั้งใจซื้อหรือขายเนี่ยะ ถ้าไม่เจ๋งจริงๆ เอาเค้าไม่อยู่หรอกครับ
2) เมื่อเกิดการ panic sell ไปได้ระดับหนึ่ง แน่นอนครับ ก็จะมีกลุ่มคนที่จะโดนบังคับขายหรือ Force Sell ทั้งในตลาดหุ้นและFuture ซึ่งจะยิ่งทำให้ดัชนีตลาดดิ่งเหวลงไปอีก (แผนนี้พูดง่าย แต่ทำยากครับ แรงขายต้องอภิมหาศาลจริงๆ)
3) เมื่อตลาดลงมาถึงจุดที่พวกตัวเฮียที่สมรู้ร่วมคิดกันพอใจและคิดว่าทำกำไรได้ มากพอแล้ว ตลาดก็จะเริ่มมีแรงซื้อก้อนใหญ่เข้ามา ในขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่ก็ยังเทขายอยู่ จนกระทั่งตลาดเริ่มยืนได้ มีการรีบาวน์กลับ....ถูกแล้วครับ พวกตัวเฮียทั้งหลายนั้น เค้าได้ทำการปิดทำกำไร และได้ช้อนซื้อกลับไปแล้ว ของเต็มมือ ทีนี้ก็ปล่อยให้พวกที่เหลือได้ไล่ซื้อของคืนกัน ทั้งไทยและเทศ จนกระทั้งผ่านวันที่ 16 ต.ค. ไป...ตลาดก็แทบจะกลับมายืนที่เดิม....
คิดดูง่ายๆน่ะครับ ดัชนี้เหวี่ยงไปกลับ 3 วันก็ประมาณ 100 กว่าจุด...ถ้าคุณรู้ว่าอะไรจะเกิดยังไง คุณจะทำกำไรมหาศาลได้ขนาดไหน....ฉลาดไม่พอครับ...ต้องเลว ต้องชั่ว ต้องใจบาปที่สุดครับ
ที่เจ็บปวดใจยิ่งกว่าคือ การที่ผู้หลักผู้ใหญ่ ทั้งจาก ตลท. กลต. รวมไปถึงรัฐบาล ไม่ได้ออกมาดูแลอย่างจริงๆจังๆ ที่เห็นก็มีดีแต่พูดว่า “นักลงทุนไม่ควรตื่นตระหนกกับข่าวลือที่เกิดขึ้น” หรือ “เป็นเรื่องปกติที่ต้องมีการปรับตัวขึ้นหรือลดลงอยู่แล้ว”
เอ่อ....ท่านครับ!! %*#(%&(#*^%&^%()*)# (ขอสงวนคำพูดครับ เหลืออดจริง)
สุดท้ายก็จับตัวบงการไม่ได้ ที่จับได้ก็ดันไปจับแต่คนมีหวังดีไปบอกต่อในกระทู้ต่างๆ ว่าที่ตลาดหุ้นลงนั้น เพราะข่าวอะไร....เสียดายภาษีที่ใช้ในการจ่ายเงินเดือนพวกเฮียๆจริงๆ ฮ่วย!
ผมขอเสนอวิธีแก้ปัญหา เวลามีกรณีแบบนี้ครับ ง่ายๆเลยคือ
1. สั่งให้หยุดการซื้อขายหรือ Trading Halt ไปเลยครับ แล้วเช็คให้แน่นอน เพื่อที่จะได้ไม่เกิดการ panic sell บ้าๆแบบนี้กันอีด ถึงแม้จะดูว่าไม่ยุติธรรมกับนักลงทุนที่จะได้ประโยชน์กับการเหวี่ยง แรงๆ...แต่ผมคิดว่า มันโหดร้ายเกินไปครับ ที่เราจะมาเล่นข่าวไม่เป็นมงคลแบบนี้
2. ตรวจสอบจริงๆจังๆ ก็รู้แล้วครับว่ากลุ่มใดที่ได้ผลประโยชน์ที่สุด กลุ่มใด Short ทั้งหุ้นและ TFEX แบบมหาศาล...สืบไปสืบมา ผมคิดว่าไม่เกินความสามารถหรอกครับ ถ้าคิดที่จะทำกันจริงๆ
ถ้าหากทาง ตลท. อยากประชาสัมพันธ์ให้เกิดนักลงทุนหน้าใหม่ๆเพิ่มขึ้น ก็ต้องทำให้ตลาดดูโปร่งใสที่สุดครับ คงไม่มีทางที่จะใสสะอาดดั่งน้ำบริสุทธิ์ แต่ก็อย่าปล่อยให้มันขุ่นขมัว มืดหม่นดั่งโคลนเน่าในคลองเหม็นเลยครับ.....อายเด็กรุ่นใหม่บ้างก็ยังดี!!!
สุดท้ายแล้ว ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า “ไอ้โม่ง” ที่เป็นต้นต่อการปล่อย “ข่าวลือ” จะถูกกระชากหน้ากากออกมาได้หรือไม่ หรือว่าเป็นการแค่ “ตีปี๊บ” และ “คว้าน้ำเหลว” ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกตามเคย อย่างที่เคยมีมาแต่ปางก่อน...เพราะหากไม่ทราบที่มาที่ไป อาจมีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งมันสามารถส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตลาดหุ้นและนักลงทุนอย่างเราๆได้อีก แน่นอนครับ
เฮ้อ!! อนิจจาเมืองไทยครับ...
“..เทรดเฉยเฉย..นั่งดีดี..โดนปล่อยข่าว..
..พี่ไม่เช็ค..พี่ไม่บอก..ปล่อยเราตาย..
..แล้วมาบอก..ว่าอย่ากลัว..ตื่นใจวาย..
..จนสุดท้าย..ทำตรูเจ๊ง..แดกจังมึง”
กลอนวันนี้อาจจะโหดนิดๆ แต่ก็ขอหน่อยเต๊อะครับ...ห้ามใจไม่ไหวจริงๆ อิอิ
ราตรีสวัสดิ์ครับ
Wizard Kid (aka.เทรดเดอร์เจ้ากวี)
14 August 2010
23:50 น.
No comments:
Post a Comment