"7 เทคนิค ฟันกำไร หุ้นเดย์เทรด"

"7 เทคนิค ฟันกำไร หุ้นเดย์เทรด"
ติดตามความเคลื่อนไหวของหนังสือ "7 เทคนิค ฟันกำไร หุ้นเดย์เทรด" คลิ๊กโลดครับ

Monday, August 16, 2010

One Night Stand Discussion #4 (ตลาดหุ้นและ TFEX ในมุมมองของ Prop Trader)


วันนี้เห็นตลาดหุ้นกับ TFEX วิ่งแล้วมันชวนคลื่นไส้อาเจียนครับ ช่วงเช้าก็ขึ้นได้ใจ ช่วงบ่ายก็ไม่รู้เพื่อนใครโดนยิง เลือดสาดดดดกระจาย เห็นแล้วมันปวดใจแทนนักลงทุน โดยเฉพาะ prop. Trade อย่างผม

อย่าคิดน่ะครับว่าเทรดแบบเสียค่าคอมจึ๋งเดียวอย่างอาชีพผม แล้วจะดีไปหมด ได้เปรียบตลอดเวลา...

เรื่องได้เปรียบนี่ อาจจะใช่ครับ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดครับ..เงื่อนไขมันสลับซับซ้อนกว่านักลงทุนอย่างคุณๆเยอะพอสมควร เช่น

บางโบรกให้เทรดได้แค่ในวัน บางแห่งอาจจะให้ Hold position ข้ามวันได้ แต่ความเสี่ยง
ก็คือ ถ้าคุณไม่กำไรนานๆเนี่ยะ ก็เหมือนมือปืนรับจ้างที่ไร้ประโยชน์ เมื่อนิ้วไม่สามารถลั่น
ไกได้แม่นยำ ก็ต้องโดนแทนที่โดยมือปืนรุ่นใหม่ไฟแรง

Prop. Trade จะมีความกดดันและความเครียดสูงกว่านักลงทุนทั่วไป เพราะต้องพยายาม
ทำกำไรให้ได้ครับ บางทีทำกำไรได้ แต่ถ้าไม่ถึงเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ ก็อาจจะโดน
พิจารณากาหัว เตรียมตัวขายเต้าฮวยกันได้เลยทีเดียว เหอๆๆ

ไม่ใช่ว่า Prop. Trade จะเทรดได้ทุกตัวในตลาดน่ะครับ มันมีเงื่อนไขว่าเล่นได้ในหุ้น
SET50 หรือ SET100 เท่านั้น ดังนั้นพวกเหล่าหุ้นปั่นตัวเล็กจึ๋งเดียวเนี่ยะ คุณกำลังเล่นกับ
เจ้ามือตัวจริงครับ โหดและเคี่ยวกว่าพวกเราชาวปอบหลายเท่าครับ

ที่สำคัญ คำที่พวกผมจะได้ยินบ่อยๆจากเหล่าผู้บริหารก็จะมาแนวนี้ครับ

ขาดทุนพี่ไม่ว่า...แต่หากขาดนานนาน...เอ็งตาย!!
ฮ่าๆๆๆๆ

ที่ผมอยากจะสื่อถึงก็คือ เข้าใจครับว่านักลงทุนส่วนใหญ่จะไม่ชอบหรือเข้าขั้นเกลียดเหล่า Prop. Trade หรือ พวกปอบ ที่เรียกๆกัน.... แต่อยากให้คิดในแง่ที่ว่า

1.ถ้าคุณจะเทรดในตลาดหุ้น ก็ไม่ต้องกลัวหรอกครับ อย่าเทรดแบบเก็งกำไรบ้าระห่ำครับ อย่าเทรดโดยที่ไม่รู้ว่าคุณกำลังเทรด กำลังเจอกับเจ้ามือแบบไหน อย่าเทรดโดยที่ไม่รู้ว่าหุ้นที่คุณซื้อนั้น มันดีหรือไม่ ไม่ใช่เห็นว่า เฮ้ย!! มันวิ่งแล้วๆ แล้วก็แห่ตามกันไป สุดท้ายก็ติดดอย แล้วก็มาโทษนู่นโทษนี่ ถ้าให้ดี ก็ควรจะโทษตัวเองบ้างก็ดีครับ เพราะอย่าลืมน่ะครับว่า ตลาดหุ้นนั้นไม่ใช่ตลาดสด ที่จะมาต่อรองอ้อนวอน ขอนู่นขอนี่ ช่วยนี่ช่วยนั่นกันได้

2.ผมกล้าการันตีได้เลยว่า ถ้าวันไหนตลาดหุ้นเทรดกันโดยไม่มี Prop. Trade ในสนามเนี่ยะ สภาพคล่องในการเทรดในตลาด TFEX และหุ้น Big Cap. ตัวใหญ่ๆ จะหายไปเยอะจนคุณอาจจะตกใจแบบขาดไม่ถึงครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาด TFEX ครับ ลองดูน่ะครับ วันไหน Bid – Offer ห่างกันน่าเกลียด ราคาสวิงมั่วๆเนี่ยะ วันนั้นแหล่ะครับ Prop. Trade แทบจะไม่เล่นกัน แล้วมันก็จะส่งผลให้ ตลาดง่วงนอนครับ -____- z z z

....ตลาดหุ้นก็เปรียบเหมือนสนามรบ ถ้าไม่อยู่รอด ก็พลีชีพซะ....

อาจจะดูว่าใช้คำพูดแรงนิดหน่อย แต่ที่บอกก็เพราะหวังดีครับ รักน่ะและอยากแสดงออก แหะแหะ

สำหรับตัวผมเอง ก็ทำงานในสายงานธุรกิจหลักทรัพย์มาได้ประมาณ 1 ปีกับอีก 7 เดือน โดยเป็นมาร์ฯ 1 ปีเต็ม แล้วก็มาทำ Prop Trade ได้ 7 เดือนครับ ถามว่าทำไมผมถึงมาเป็น Prop. Trade แทนที่จะกินเงินเดือนเฉลี่ยเกือบ 6 หลัก ตอนเป็นมาร์ฯ? พรุ่งนี้ผมมีคำตอบครับ ^__^ (วันนี้ขอจบเรื่องนี้ก่อน พรุ่งนี้เราค่อยมาเคลียร์หนี้กัน แหะแหะ)

วันนี้ผมถือว่า ผมประสบความสำเร็จในก้าวแรกในอาชีพเทรดเดอร์ในตลาด TFEX (ผมเป็น Prop. Trade ตลาด TFEX อย่างเดียวครับ) เพราะสามารถพบวิธีเทรดและทำกำไรได้ แต่คงไม่ได้ทุกวัน เพราะผมไม่ใช่เซียนครับ เลยอยากแบ่งปันมุมมองในตลาดหุ้นและ TFEX ผสมปนเปกันไปจากประสบการณ์อันน้อยนิด little bit, little more ไว้ให้มิตรสหายชาว S2M ได้ลองวิเคราะห์ดูครับ อาจจะจริงหรือไม่จริงผมไม่ทราบ แต่มันมาจากประสบการณ์ที่ผมได้ประสบพบเจอในสนามรบที่ไม่มีวันสิ้นสุดที่ชื่อ ว่า “ตลาดหุ้น” ครับ

เชิญรื่นเริงทัศนาจรได้เลยครับ ^__^

1. ถ้าคุณอยากเป็น Value Investor ก็ขอให้ดูงบการเงิน สนใจปันผล ต้องอย่าสนใจราคาหุ้นมากนัก ถ้ายังหวั่นไหวกับการเปลี่ยนของราคาแทนที่จะกังวลว่าจะปันผลจะได้เท่าใด แสดงว่าคุณเป็นผู้เล่นแบบต้องการส่วนต่างราคา หรือ Speculator ประมาณนั้นครับ

2. อย่าเชื่อการวิเคราะห์ต่างๆ ว่าพรุ่งนี้จะขึ้นหรือลง เดือนนี้จะขึ้นหรือลง เศรษฐกิจดีไม่ดี เพราะไม่มีใครรู้หรอกครับ (ยกเว้น เบน เบอร์นันเก้ ไว้คนนึงก็ได้ครับ แค่ลมปากคนๆเดียว สามารถสะเทือนตลาดได้รอบโลก นี่มันพระเจ้าชัดๆ ฮ่าๆ) แม้เจ้ามือที่มีหุ้นใหญ่มากพอที่จะสร้างราคาได้ ยังไม่รู้เลยว่าจะทำตามแผนได้รึเปล่าถ้าตลาดไม่อำนวย การถือข้ามคืนคือความเสี่ยง โดยเฉพาะตลาด TFEX (ยกเว้นว่าคุณเป็นนักลงทุนแนว VI อันนี้ก็ไม่ขัดข้องครับ) คนที่บอกถูกบ่อยคือเดาเก่ง คนที่เก่งจริงมักจะเก็บตัวเงียบๆ ไม่ค่อยบอกหรอกครับ แล้วจะปล่อยให้เงินคุณอยู่กับการเดางั้นหรือ อันนี้คือความจริงครับ จากประสบการณ์ตอนเป็นมาร์เก็ตติ้งเนี่ยะ ผมมักจะบอกลูกค้าเสมอว่า “พี่ไม่ต้องเชื่อมาร์ฯ หรือนักวิเคราะห์ทั้งหลายหรอกครับ เพราะถ้าคนเหล่านั้นรู้จริง เค้าไม่มานั่งรับออเดอร์หรือวิเคราะห์ให้พี่ฟังหรอก เค้าไปเทรดเอง รวยเป็นเสี่ย เป็นเจ้าสัวกันไปแล้ว” คิดดูน่ะครับ มันคือความจริงทั้งนั้นครับ

3. การเคลื่อนไหวของราคาจะเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ณ เวลานั้นๆ และจากจิตวิทยา อารมณ์ตลาด เพียงแค่นาทีที่เปลี่ยน ทิศทางก็เปลี่ยน ต้องพร้อมที่จะพริ้วไปตามอารมณ์นั้น ข้อดีเหมาะสำหรับชาว Day Trading น่ะครับ ส่วน VI ทั้งหลาย ก็ไม่ต้องซีเรียสครับ จิบน้ำชา เคล้านารี หนีเมียให้ทัน ก็เป็นพอครับ ^_^

4.
ต้องไม่มีเพื่อนชื่อ อีโก้ ครับ ต้องไม่รู้จักมันเลย ไม่ต้องไปคบมันด้วยครับ เพราะคุณต้องยอมรับความผิดพลาด Cut loss ให้เร็วที่สุด ถ้าคุณอยู่ผิดฝั่ง ผิดที่ผิดทาง อย่าไปสน อย่าไปแคร์ว่าจะทำให้ความรู้สึกของตัวเองแย่ เป็นคนที่ผิดพลาดในสายตาคนอื่น ไม่ต้องสนใจใครครับ มันคือเงินลงทุนของเรา ถ้าคุณกล้าเก็บกำไรเร็ว คุณก็ต้องกล้า Cut loss เร็ว ถ้าเก็บกำไรช้าก็ต้องกล้าที่จะขยายช่วง Cut loss เสีย แต่ก็ต้องเผื่อใจไว้ด้วยว่า โอกาสที่กำไรนั้นไม่กลับมาอีกเลย ก็มีครับ ลองคิดขำๆน่ะครับ มันก็เหมือนกับเราเจอสาวถูกใจในที่เที่ยว แล้วน้องเค้าก็คุยกับเราเหมือนให้ความหวังเต็มเปี่ยม เราก็รอน้องเค้าคนเดียว ไม่เฉลียวไปมองหญิงอื่นอีกเลยในคืนนั้น สุดท้ายพอผับปิด เราก็หวังว่าคืนนี้จะมีเฮ แต่โลกกลับมาสลายเมื่อน้องหันมาบอกว่า “เดี๋ยวสามีหนูมารับค่ะ” T____T” ฮ่าๆๆ อันนึ้คิดว่าน่าจะเห็นภาพน่ะครับ ขำๆครับ

5. สิ่งสำคัญที่สุดในการเล่นหุ้นให้ชนะสำหรับชาว Day trading ก็คือ Ticker, bid-offer และ speed ในการเข้าออก การตัดสินใจแค่เสี้ยววินาที มีผลทันทีต่อราคาในตลาด TFEX และหุ้นซิ่งทั้งหลายครับ
ส่วนสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเหล่า Value Investor ก็คือ ความแม่นยำในการเลือกหุ้น, ความอึด ถึก ทน และใจที่แกร่งพอที่จะเห็นราคาสวิงในแต่ละวันครับ

6. นักลงทุนและเทรดเดอร์ที่เก่งนั้น จะมีจุดเด่นเลยคือ เป็นคนที่สังเกตการปลี่ยนแปลงหรือสิ่งผิดปกติและปรับตัวได้เก่ง ไม่ยึดติดหรือดื้อ ซึ่งบางครั้งการเป็นคนช่างสังเกตุนั้นก็สำคัญไม่น้อยไปกว่าประสบการณ์ ความฉลาดและความรู้ส่วนตัวครับ อันนี้ค่อนข้างจะจริงครับ โดยเฉพาะการที่ผมได้ร่วมงานกับเหล่า Prop. Trade รุ่นพี่ทั้งหลาย คนที่เก่งระดับเซียนเนี่ยะ เค้าจะเก่งเรื่องการสังเกตุครับ สามารถจับจุดได้ว่าตลาดวันนี้ จะไปทิศทางใด หุ้นตัวนี้จะขึ้นจะลงเพราะอะไร ที่แจ่มยิ่งกว่าคือ เค้าแทบไม่อ่านข่าวครับ สังเกตุ Bid-Offer หรือการเคลื่อนไหวบางอย่าง ของหุ้นบางตัว แค่นี้ครับ ก็สามารถทำกำไรได้แล้ว เก่งจริงๆ ผมก็พยายามฝึกอยู่ครับ

7. อย่าคิดว่าตลาดหุ้นมันเป็น Fair Market เพราะอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นครับว่า ตลาดหุ้นไม่ใช่ตลาดสด อย่าคิดว่าจะมีใครมาช่วยคุณ ตลาดอันแสนโหดร้ายนี้ย่อมมีคนที่ได้เปรียบกว่าคุณ ทั้งหน้าตัก ค่าคอม พรรคพวกและข่าววงใน อย่าลืมน่ะครับว่าเค้าเล่นในเวทีเดียวกับคุณ อย่ามัวแต่ถามหาความยุติธรรมแต่ต้องไหลไปตามเกมส์ที่คนเหล่านั้นกำหนดให้ทัน ให้ได้และให้ไวครับ ไม่ใช่มาทันเมื่อปลายน้ำ สุดท้ายก็เหือดแห้งกันพอดีครับ

8. อย่าคาดคะเนว่าตลาดจะไปทางนั้นทางนี้ อาจจะคาดเดาได้บ้างครับ แต่อย่าไปยึดติดกับความคิดแบบนั้นจนเกินไป พราะจะเกิดการ Bias อย่างแน่นอน จงปล่อยให้ตลาดมันทำตามภาวะของมันไป อย่าไปคิดว่าเดี๋ยวมันก็ลงตามที่ชั้นคิด เดี๋ยวมันก็ขึ้นตามที่ชั้นคาด ถ้ายังคิดแบบนี้อยู่ รับรองครับ เดี๋ยวคุณก็หมดตัว!! จงพยายามเก็บกำไรให้ได้ และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนข้างตลอดเวลา

9. ทุกสิ่งทุกอย่างในตลาดมักจะเกิดขึ้นซ้ำๆ ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะจับจุดมันได้เร็วแค่ไหน อาจจะต้องใช้ประสบการณ์หรือการศึกษาค้นคว้าอย่างตั้งใจและแน่วแน่ พยายามหา pattern ให้เจอครับ พยายามหาวิธีที่ทำเงินให้คุณได้ ถึงแม้บางครั้งคุณจะโดนปล้น แต่สุดท้ายโจรเหล่านั้นก็พรากกำไรไปจากคุณไม่ได้ เพราะคุณคือโคบาล!! เอ๊ย!! เพราะคุณมีความสามารถในการเทรดที่ผ่านการทดลองและฝึกฝนมาอย่างดีและชำนาญ แล้ว

10. ข้อนี้ผมแนะนำเลยครับว่า ควรเอาเวลาไปสังเกตหน้าจอหาหุ้นตัวที่เราถนัด อันนี้แนะนำว่าซัก 4-5 ตัวครับ นั่งดูนิสัยการเล่นของมันให้ชำนาญ จับจุดให้ได้ว่าถ้าตลาดแบบนี้ มันจะเป็นยังไง มันจะขึ้นจะลงแรงๆ ต้องมีปัจจัยใดเกิดขึ้นบ้าง และอยู่กับมัน 1-2 เดือน ย่อมดีกว่าการติดตามข่าวสารวิเคราะห์กับสิ่งที่คนส่วนใหญ่รู้กันหมดเป็นปีๆ แล้วครับ

ความจริงมีอีกหลายข้อครับ พิมพ์ได้เป็หน้ากระดาษเลย แต่ขอสรุปคร่าวๆก่อน ไว้ถ้ามีโอกาสได้เจอะเจอกัน เราค่อยมาคุยกันครับ จะได้อรรถรสในการรับรู้ข้อมูลแน่นอนครับ

ผมก็คาดหวังว่าบทความนี้ที่มาจากประสบการณ์โดยตรงของเทรดเดอร์ตัวน้อยคนนี้ จะช่วยให้นักลงทุนหน้าใหม่ หน้าปัจจุบันหรือแม้กระทั้งหน้าเก่าๆ ได้เข้าใจ หรือเก็บไว้เป็นเครื่องเตือนตน จะได้นำไปปรับปรุงสิ่งที่ตนขาดหายไป และอยู่รอดในตลาดทุนได้ แค่นี้ผมก็ดีใจ ฮิ้ว ฮิ้ว แล้วครับ แหะแหะ

บทความนี้ ผมได้นำเนื้อหาบางส่วนมาจากพี่เทรดเดอร์คนนึงที่ผมสนิทด้วยครับ แต่นำมาเขียนในสไตล์ Wizard Kid ครับ ขอบคุณครับพี่

..เป็นพวกปอบ..มีแต่คน..จ้องจะว่า..
..ทำชั้นเจ๊ง..ทำชั้นจน..เลวอิ๊บอ๋าย..
..เล่นเข้าช่อง..ออกอีกช่อง..ง่ายจะตาย..
..ลองเป็นดู..แล้วจะรู้..ไม่ง่ายเอย...
 
ราตรีสวัสดิ์ครับพี่น้องชาว S2M

Wizard Kid (aka.เทรดเดอร์เจ้ากวี)
3 August 2010
 

No comments:

Post a Comment