"7 เทคนิค ฟันกำไร หุ้นเดย์เทรด"

"7 เทคนิค ฟันกำไร หุ้นเดย์เทรด"
ติดตามความเคลื่อนไหวของหนังสือ "7 เทคนิค ฟันกำไร หุ้นเดย์เทรด" คลิ๊กโลดครับ

Sunday, October 31, 2010

เลือกหุ้นก็เหมือนเลือกแฟน เลือกดีก็สบาย แต่จะบ้าตาย ถ้าเลือกผิด!! ตอนที่ 1 (One Night Stand Discussion # 33)

ทำไมนักลงทุนส่วนใหญ่มักจะเลือกลงทุนในหุ้นแบบไร้เหตุผล เห็นคนอื่นเล่นก็เล่นตาม เห็นคนนั้นบอก คนนี้บอกก็แห่ตามกันซื้อ สุดท้ายก็เจ๊ง เพราะมีแต่คนบอกว่าเข้าซื้อได้ แต่ไม่มีใครบอกว่าให้ขายออกเวลาใด
..เหตุการณ์เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ถ้านักลงทุนเหล่านี้ใช้วิธีการที่เรียกว่า

เลือกหุ้นให้เหมือนกับเลือกแฟน

อ่าวว..อย่าเพิ่งหัวเราะไปน่ะครับ แล้วคุณจะตะลึงว่ามันคือเรื่องจริงที่คุณต้องขนลุก แล้วอาจจะต้องกลับไปถามตัวคุณเองว่า 

คนที่คบกันอยู่เนี่ยะ คือคนที่ใช่สำหรับคุณหรือมั๊ย

เช่นเดียวกันครับ คุณก็ย่อมจะกลับไปดูพอร์ทการลงทุนของตัวคุณเองอีกครั้งว่า

หุ้นที่คุณลงทุนไปนั้น คือหุ้นที่ใช่หรือไม่

และถ้าคุณคิดอย่างนี้ได้ในทุกครั้งที่คุณจะซื้อหุ้นเนี่ยะ โอกาสแทบจะเป็นศูนย์เลยครับ ที่คุณจะขาดทุนจากหุ้นตัวนั้น นอกเสียจากว่า คุณเลือกผิดเอง!!

...บางคนอาจจะแย้งว่า เลือกแฟนเนี่ยะ มันยากกว่าเลือกหุ้นอีกน่ะคุณพีร์ ฮ่าๆๆ อันนี้ผมเห็นด้วยครับ งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า จะเลือกหุ้นให้เหมือนเลือกแฟนเนี่ยะ ต้องทำอย่างไรกันบ้าง...

ดูพื้นฐานหุ้นให้เหมือนสืบประวัติแฟน

-      ถ้าคุณพยายามศึกษาและค้นคว้าข้อมูลพื้นฐาน ข้อมูลสำคัญๆของหุ้นที่เค้าสนใจให้เหมือนกับตอนที่คุณจีบแฟนใหม่ๆเนี่ยะ คุณก็ต้องรู้ว่าหุ้นตัวที่คุณเลือกเนี่ยะ เป็นหุ้นลักษณะใด ใครเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เป็นหุ้นมีวอลุ่มและสภาพคล่องที่ดีมากน้อยเพียงใด มีรอบการเล่น (Life Cycle) แบบไหน และมีปัจจัยอะไรบ้างที่มีผลต่อราคาหุ้นตัวนั้น ไม่ต่างอะไรกันครับกับการสืบประวัติแฟนของคุณ เพราะคุณก็ต้องรู้ว่าคนที่คุณจะจีบเนี่ยะเป็นลูกเต้าเหล่าใคร เป็นคนนิสัยเช่นใด เป็นคนที่ป๊อบปูล่าห์ขนาดใด (เพื่อเช็คสภาพคล่องในการเข้าถึงและความยากง่ายต่อการจีบ หุหุ)

-      ศึกษาให้แน่ชัดว่าหุ้นตัวที่คุณจะซื้อนั้นมีจ่ายปันผลหรือไม่ มี P/E (Price/Earning), P/BV (Price/Book Value) และ ROE (Return of Equity) ที่ดีแค่ไหน อันนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนแนวถือยาวหรือ Value Investor น่ะครับ ถ้าเปรียบกับการเลือกแฟน ก็ให้คิดว่าคนที่คุณจะเลือกมาใช้ชีวิตคู่ด้วยกันเนี่ยะ เมื่อเค้ามาเป็นคู่ของคุณแล้วเนี่ยะ แฟนของคุณจะให้คุณหรือโทษต่อชีวิตคุณมากกว่า เมื่อใช้ชีวิตคู่ด้วยกันระยะยาวแล้วเนี่ยะ ความรักจะยังเหมือนเดิมหรือไม่

ยกตัวอย่าง P/E ratio น่ะครับ อันนี้ให้ดูได้จากตอนรักแรกเริ่มก่อนว่า มูลค่าที่คุณตีไว้สำหรับแฟนคุณ (Price) สูงมากน้อยเพียงใด ซึ่งปกติก็ต้องสูงสุดลิ่วแน่นอน (แหงหล่ะ ก็คนมันตกหลุมรักนี่เนอะ หุหุ) ส่วนผลตอบแทน (Earning) ย่อมไม่สูงนักเนื่องจากคุณยังเพิ่งคบกัน ยังต้องดูกันอีกซักระยะนึง ซึ่งจะทำให้ P/E สูงมากๆ แต่คุณก็กล้าเสี่ยง แต่พอเวลาผ่านไป 2-3 ปี หากความรักของคุณยังดีเยี่ยม Price ของแฟนก็ต้องสูงเหมือนเดิม  ที่เพิ่มขึ้นก็คือ Earning ของความสุขและความเข้าใจกันที่มากขึ้น เมื่อ Price สูงเท่าเดิม แต่ Earning สูงมากขึ้น ย่อมทำให้ P/E ต่ำแน่นอน ซึ่งตามหลักแล้ว P/E ต่ำ หุ้นตัวนี้ก็ยิ่งน่าซื้อน่าถือครับ เป็นแฟนก็แปลว่า ยิ่งควรคบต่อไปครับ แหะแหะ (มันโยงเข้าไปได้ไงหว่า)

จับทิศทางราคาหุ้นให้เหมือนกับรู้จักอารมณ์ของแฟน

-      อันนี้จริงยิ่งกว่าจริง!! ถ้าคุณประยุกต์การทำราคา การไหลของราคาและวัฐจักรการทำรอบราคาของหุ้นแต่ละตัวหรือหุ้นที่คุณชอบ ให้เหมือนกับการที่คุณเข้าใจอารมณ์ของแฟนคุณว่า ตอนนี้น่ะเค้ากำลังอารมณ์ดี อารมณ์เสีย หรืออารมณ์ผันผวน (โดยเฉพาะคุณผู้หญิงทั้งหลายเวลาวันนั้นของเดือนมา คุณผู้ชายห้ามขัดใจ!! ไม่งั้นจะโดนตัดใจแน่นอน เอิ๊กๆๆ) ถ้าคุณทำได้เนี่ยะรับรองครับว่า คุณจะจับจังหวะการเล่นได้ว่า เวลาไหนหุ้นกำลังจะขึ้น เวลาไหนหุ้นกำลังเทขายทิ้ง ที่สำคัญน่ะครับ!! อย่า!! อย่าเด็ดขาด!! กับการไปซื้อหุ้นในช่วงขาลงเต็มตัว อาจจะไม่เห็นภาพ แต่ลองนึกภาพตามน่ะครับ....ถ้าแฟนคุณกำลังอารมณ์เสียสุดขีดถึงขีดสุดเนี่ยะ แล้วคุณปล่อยให้เค้าระบายอารมณ์ (คล้ายๆกับตอนหุ้นกำลังทิ้งดิ่งแรงๆ) จนมาถึงจุดๆนึงที่คุณคิดว่าเค้าอารมณ์ดีแล้ว (คิดว่าหุ้นลงมาจนถึงจุดต่ำสุดหรือ bottom point) คุณก็เข้าไปแหย่ ไปหยอกล้อ ไปนู่นไปนี่ เพราะคิดว่าเค้าหายโกรธแล้ว....มันก็ไม่ต่างอะไรกับการที่คุณไปซื้อหุ้นหลังจากที่มันทิ้งดิ่งลงมาสักพักแล้ว...

..คำเดียวครับ...ซวยยยย! แน่นอนครับ!!!...

เพราะว่าแฟนคุณจะหงุดหงิดเพราะคิดว่าคุณไม่ใส่ใจเค้า หนอยแน๊ะ!! คิดว่าแค่นี้ชั้นจะหายโกรธรึ!! ฮึ่มๆๆ!! เพี๊ยะๆๆ ตุ๊บๆ ตั๊บๆ!! #$@%#%&

...ตายเกลี้ยงแน่นอนครับ เละ!!...

ไม่ต่างจากหุ้นเลยครับ คุณเข้าไปซื้อตอนมันลงแรงๆ เพราะคิดว่าราคาจะดีดกลับไปที่เดิม ที่ไหนได้ครับ เจ้ามือหลอก!! ขายทิ้งอีกชุดใหญ่!!

...สุดท้ายแล้ว...หากไม่ขายตัดขาดทุน ก็ต้องติดดอยยาวครับ...

..คุณจะต้องรอให้หุ้นดีดกลับไปใหม่ อาจจะต้องใช้เวลาอีกเป็นอาทิตย์ เป็นเดือน หรือเป็นปี ก็แล้วแต่นิสัยของหุ้นตัวนั้น...

..ไม่ต่างอะไรกับอารมณ์โกรธของแฟนคุณครับ ว่าจะหายเมื่อไหร่ บางคนแป๊บเดียวหาย บางคนกว่าจะหายก็เป็นวัน เป็นอาทิตย์ หรือทนไม่ไหวจริงๆ ก็เลิกกันไป แต่ส่วนใหญ่ก็เลิกไม่ได้เพราะ

ตัดขาดทุนว่ายากแล้ว แต่ตัดใจจากเธอ มันยากยิ่งกว่า

ฮิ้ววววววว!!!

To be continued!!

Wizard Kid
31 October 2010
16:30 น.

No comments:

Post a Comment