"7 เทคนิค ฟันกำไร หุ้นเดย์เทรด"

"7 เทคนิค ฟันกำไร หุ้นเดย์เทรด"
ติดตามความเคลื่อนไหวของหนังสือ "7 เทคนิค ฟันกำไร หุ้นเดย์เทรด" คลิ๊กโลดครับ

Sunday, November 14, 2010

รู้จัก TFEX แบบ เบา เบา สไตล์ Wizard Kid ตอนที่ 2 (One Night Stand Discussion # 36)



มาต่อกันที่สินค้าหรือ Product ที่นิยมเทรดกันใน TFEX ตัวที่ 2 กันน่ะครับ อันนี้ต้องบอกว่าเป็นตัวที่ทำให้ตลาด TFEX บูมขึ้นมาอย่างเด่นชัดมากๆ ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา  

“Gold Future”

ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่าเป็น ทองในอนาคตดังนั้น สินค้าตัวนี้จึงมีข้อดีที่นักลงทุนสามารถเก็งกำไรในตัวทองคำได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปซื้อทองคำแท่ง อีกทั้งจำนวนเงินที่ใช้ในการลงทุนยังน้อยกว่าอีกด้วยครับ

ก่อนอื่นเลย มาทำความเข้าใจกันก่อนว่าตลาด Future นั้นเป็นตลาดแบบใด...

ตลาด future เป็นตลาดแบบจับแพะชนแกะ หรือการจับคู่เอาผู้ที่อยากจะซื้อ (Buyer) มาเจอกับผู้ที่อยากขาย (Seller) ผ่านระบบคนกลาง โดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่ต้องรู้ว่าใครเป็นใคร โดยทำการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ บ้านเราก็คือ TFEX นี่เอง TFEX จะเป็นคนกำหนดกฏเกณฑ์การซื้อขาย คอยจัดการดูแลให้ผู้เกี่ยวข้องในตลาด ปฏิบัติตามสัญญา ตลาดนี้มีลักษณะอีกอย่างที่เรียกว่า zero sum games นะครับ ก็คือ มีคนได้มีคนเสียเท่าๆกันเสมอ (โหดร้ายกว่าตลาดหุ้นเยอะครับ หุหุ)

การซื้อขาย Gold Futures สำหรับตลาดเมืองไทยนั้น ก็เหมือนกันกับ SET50 Index Futuresโดยสิ่งแรกที่ต้องทำความรู้จักกันเสียก่อน อันดับแรกเลยก็คือ ช่วงเวลาการซื้อขาย ซี่งมี 2 ช่วง โดยก่อนหน้าเวลาทำการ 30 นาที จะเปิดให้ส่งคำสั่งเสนอซื้อ เสนอขายเข้าไป (เรียกว่า ATO) โดยยังไม่มีการจับคู่ผู้ซื้อและผู้ขาย เพื่อให้โอกาสนักลงทุน ได้พิจารณาทิศทางการลงทุน ดูว่า จะเล่นไปทางไหนดี

เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์เท่านั้น เสาร์-อาทิตย์หยุด

ช่วงก่อนเปิดตลาดภาคเช้า 9.15 น.- 9.45 น. (ส่งคำสั่งเสนอซื้อ เสนอขาย โดยไม่มีการจับคู่สัญญา)
ช่วงเวลาทำการภาคเช้า 9.45 น. - 12.30 น.
ช่วงก่อนเปิดตลาดภาคบ่าย 14.00 น. - 14.30 น. (ส่งคำสั่งเสนอซื้อ เสนอขาย โดยไม่มีการจับคู่สัญญา)
ช่วงเวลาทำการภาคบ่าย 14.30 น. - 16.55 น.

สำหรับช่วงเวลากลางคืนนั้น นักลงทุนไม่สามารถทำการซื้อขายได้น่ะครับ (นอกจากมี port ลงทุนกับโบรกต่างประเทศที่สามารถเทรดตลาดกลางคืนได้) ตรงนี้ผมว่าทำให้นักลงทุนหลายคนคิดหนัก เพราะราคาทองคำนั้นมักจะสวิงแรงในช่วงกลางคืน ใครจะถือข้ามวันก็ต้องคาดเดาทิศทางดีๆ และผมว่าเมื่อมีการซื้อขายจริง มีโอกาสสูงที่เราอาจจำเป็นต้องถือสัญญาข้ามวันเสียด้วย แต่อีกไม่นานเกินรอครับ ทางตลาด TFEX จะขยายเวลาให้เทรดกันในช่วงเวลากลางคืนกันได้แล้วครับ (เอากันให้มันส์กันสุดๆไปเลย เอิ๊กๆ)

ชื่อของสัญญา: Gold Futures ก็เหมือนกับ SET50 Index Futures ครับที่ต้องมีชื่อ เพื่อใช้อ้างอิงในการซื้อขาย โดย Gold Futures จะมีรูปแบบดังนี้
                                              GF + Code เดือน + ปี 2 หลัก
เดือนสำหรับ Gold Futures จะใช้เฉพาะเดือนคู่ Code เดือน ได้แก่ G: กุมภาพันธ์ J: เมษายน M: มิถุนายน Q: สิงหาคม V: ตุลาคม Z: ธันวาคม


ตัวอย่าง ก็เช่น
ทองคำสัญญาเดือนกุมภาพันธ์ปี 2010 จะมี code เป็น GFG10
ทองคำสัญญาเดือนเมษายนปี 2011 จะมี code เป็น GFJ11

ขนาดของสัญญา: ปัจจุบันมีสองรูปแบบของสัญญาซื้อขายครับคือ 10 บาท และ 50 บาทต่อสัญญาครับ ซึ่งก็หมายความว่าหากเราซื้อ 1 สัญญา ก็จะเท่ากับเราซื้อทองคำ 10 บาท หรือ 50 บาท และใช้เงินลงทุน ที่เรียกว่า หลักประกัน หรือ margin 10% หรือหมายความว่า หากเราจะซื้อขาย Gold Futures ต้องเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ไว้ประมาณ 66500 บาท จะเห็นได้ว่า ขนาดสัญญาค่อนข้างแพงสำหรับทองคำ 50 บาท ดังนั้นแล้วถ้าต้องการลดความเสี่ยงก็ควรจะลงทนในทองคำสัญญาละ 10 บาทแทนครับ ใช้เงินน้อยกว่า 5 เท่าของตัว 50 บาทครับ  

ระยะห่างของราคา: 10 บาท หมายความว่า เราสามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้แค่หลักสิบ หลักหน่วยส่งไม่ได้ เช่น 19010 ได้ แต่ 19011 ไม่ได้

อายุของสัญญา: Gold Futures ต่างจากทองคำจริง ตรงที่มีอายุนี่แหละครับ โดยวันหมดอายุคือวันทำการก่อนวันทำการสุดท้ายของเดือนที่หมดอายุ เช่น ของเดือนกุมภาพันธ์ปี 2010 วันที่ 28 ตรงกับวันเสาร์ วันทำการสุดท้ายคือวันศุกร์ที่ 27 ดังนั้น วันหมดอายุของ GFG10 คือวันที่ 26 นั่นเอง หากเราถือจนหมดอายุ สัญญาของเราสิ้นสุดลง และจะได้ราคาตามราคาลอนดอนในภาคเช้า (London  A.M. Fixing Price) แต่หากเราต้องการเล่นต่อ เราต้องขายและไปซื้อสัญญาของเดือนถัดไปแทน (Roll Over)

ค่าธรรมเนียมหรือค่าคอมมิชชั่น: ประมาณ 500 บาทครับ (ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นซื้อมาก ลดค่าคอมมากจากทางตลาด TFEX ด้วยครับ)
ที่กล่าวมาข้างต้นนั้นก็คือรูปแบบคร่าวๆของ Gold Future ครับ
แล้วปัจจัยอะไรบ้างหล่ะที่มีผลต่อการขึ้นลงของราคา Gold Future....
ขอสรุปคร่าวๆครับว่า มีเยอะมากๆเยอะจนจับต้นชนปลายไม่ถูกแล้วว่าที่ทองคำมันขึ้นลงอยู่ทุกวันนี้เนี่ยะ มันเพราะอะไรกันแน่ จากเมื่อก่อนที่มีคนบอกว่า ถ้าน้ำมันขึ้น ทองก็ต้องขึ้นตาม...แต่ผมชักไม่เห็นด้วยแล้ว เพราะว่าตอนที่น้ำมันร่วงจาก 100 เหรียญกว่าๆลงมา 40 เหรียญต้นๆนั้น ราคาทองคำไม่เห็นจะร่วงตามด้วยเลย หนำซ้ำกลับดีดเป็นม้าดีดกะโหลก ขึ้นเอาๆครับ
แต่ถ้าจะดูว่าปัจจัยใดที่มีผลค่อนข้างมากก็คงจะต้องเป็น 

1.    ค่าเงินดอลล่าห์
2.    อัตราเงินเฟ้อ
3.    อัตราดอกเบี้ย
4.    ตลาดหุ้น

หลักๆเท่าที่ผมเคยใช้ก็จะมีปัจจัยแนวนี้แหล่ะครับ ส่วนจะดูกันยังไงเนี่ยะ อาจจะต้องอธิบายกันยาวยืดครับ และมันไม่มีทฤษฏีที่ตายตัวนัก เพราะปัจจุบันตลาดทองคำโลกนั้น แทบไม่ต่างจากหุ้นตัวหนึ่งครับ ซื้อขายเก็งกำไรกันน่ากลัวจนบางทีราคามันเว่อร์มากๆครับ (ใครซื้อขายช่วงนี้ก็ควรต้องจับตาดูกันอย่างใกล้ชิดน่ะครับ ไม่รวยก็เจ๊งกันไปเลยทีเดียว)
สุดท้ายครับ เรามาดูความแตกต่างกันระหว่าง ทองคำแท่งและ Gold Futures กันน่ะครับ



บอกได้คำเดียวครับว่า ถ้าศึกษาอย่างถูกทางและลงทุนอย่างถูกวิธี Gold Futures สามารถตอบโจทย์การลงทุนของคุณได้อย่างดีเยี่ยมครับ

....วันนี้คุณรู้จัก Gold Futures แล้วหรือยัง….หุหุ

Wizard Kid
14 November 2010
20:37

No comments:

Post a Comment